สบยช.ผนึก กฟภ.รุกใช้โซลาร์รูฟท็อปลดภาระค่าไฟมุ่งพลังงานสะอาด

25 เม.ย. 2566 | 04:06 น.

สบยช.ผนึก กฟภ.รุกใช้โซลาร์รูฟท็อปลดภาระค่าไฟมุ่งพลังงานสะอาด ขนาดกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 380 กิโลวัตต์สูงสุด คาดติดตั้งและทดสอบระบบแล้วเสร็จภายในปี 2566 สริมความมั่นคงทางพลังงาน

นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เปิดเผยว่า สบยช.ได้ดำเนินการร่วมกับการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือกฟภ.(PEA) เพื่อทำโครงการจัดการพลังงานไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop)

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นโครงการที่สนับสนุนให้ สบยช. สามารถนำระบบดิจิทัลมาช่วยในการอนุรักษ์และจัดการพลังงานไฟฟ้าได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

โดยเป็นการจัดการพลังงานจากระบบ Solar Rooftop แบบครบวงจร ซึ่ง สบยช. ไม่ต้องเป็นผู้ลงทุนจัดหาระบบ แต่ PEA จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ วิเคราะห์การใช้พลังงาน กำหนดมาตรการและแนวทาง สำรวจ ออกแบบและติดตั้งระบบ Solar Rooftop 

รวมถึงการลงทุน ซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบ ตลอดระยะเวลา 20 ปี โดยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการดูแลรักษาตามกรอบเวลาที่เหมาะสม จะดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้า Solar Rooftop ขนาดกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 380 กิโลวัตต์สูงสุด คาดว่าจะติดตั้งและทดสอบระบบแล้วเสร็จภายในปี 2566 

สบยช.ผนึก กฟภ.รุกใช้โซลาร์รูฟท็อปลดภาระค่าไฟ นายแพทย์สรายุทธ์ กล่าวอีกว่า ภายในโครงการจะมีระบบ ติดตามผลการผลิตไฟฟ้า หรือ Monitoring System ที่จะช่วยให้ สบยช. ติดตามและอ่านค่าหน่วยการผลิตไฟฟ้าจากระบบ Solar Rooftop ได้แบบ Realtime ทำให้สามารถกำหนดนโยบาย และเป้าหมายการลดใช้ไฟฟ้าได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับในปัจจุบันกรมการแพทย์มีนโยบายใช้พลังงานทดแทนสำหรับผลิตไฟฟ้าเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ใช้ไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยการติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา แบบผลิตใช้เองเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

ซึ่งความร่วมมือในการดำเนินโครงการจัดการพลังงานไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาในครั้งนี้จะทำให้ สบยช. ได้ใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากระบบ Solar Rooftop ช่วยลดลดภาระค่าไฟฟ้า เสริมความมั่นคงทางพลังงานภายใน 

สบยช. คาดการณ์ว่าจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 15% หรือคิดเป็น 257,586 บาทต่อปี อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่มุ่งเน้นเสริมสร้างการใช้พลังงานทดแทนให้กับภาครัฐอีกด้วย 
 

"สบยช. เล็งเห็นว่าการบริหารจัดการพลังงานโดยการนำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและระบบตรวจวัดการใช้พลังงานมาประยุกต์ใช้งานกับองค์กรสามารถช่วยชาติได้ด้วยการลดใช้พลังงาน และลดค่าใช้จ่ายพลังงานที่ประเทศต้องสูญเสียไปอย่างมากในแต่ละปี" 

นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการ กฟภ. กล่าวว่า กฟภ. ให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายของรัฐ เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศในการผลิตกระแสไฟฟ้า 

นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วโลก กฟภ.เห็นว่า สบยช. เป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก จึงเกิดความร่วมมือในการดำเนินโครงการจัดการพลังงานไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาดังกล่าว