net-zero

เปิดเทรนด์ใหม่ นักเดินทางทั่วโลกมุ่งสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน

    ผลสำรวจปี 2025 ชี้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลกเปลี่ยนจากแค่แสวงหาประสบการณ์ สู่การใส่ใจผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ปี 2025 การเดินทางกำลังเปลี่ยนทิศจากแค่การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน สู่การเดินทางที่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวต่อชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม โดยผลสำรวจล่าสุดจาก Booking.com สะท้อนเทรนด์สำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เริ่มหันมาทบทวนบทบาทของตนเองในฐานะ “ผู้มาเยือน” และเลือกการเดินทางที่ส่งผลดีต่อพื้นที่ที่ไปเยือน

ผลการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 32,000 คนใน 34 ประเทศ ผู้ตอบแบบสอบถามต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เคยเดินทางภายใน 12 เดือนที่ผ่านมา และมีแผนเดินทางในปี 2025 การสำรวจจัดทำผ่านช่องทางออนไลน์ในเดือนมกราคม 2025

พบว่า นักท่องเที่ยว มากกว่าครึ่ง (53%) ตระหนักว่าการเดินทางของพวกเขาส่งผลต่อ ชุมชนท้องถิ่น ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป ขณะที่ 84% ของนักเดินทางทั่วโลก ยังคงให้ความสำคัญกับ “ความยั่งยืน” เป็นเงื่อนไขหลักในการตัดสินใจท่องเที่ยว

“เสียงเจ้าบ้าน” เริ่มมีความหมายกับนักท่องเที่ยว

นอกจากการสอบถามนักเดินทาง รายงานฉบับนี้ยังได้สะท้อนมุมมองของ “คนในพื้นที่” ที่เป็นผู้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นความแออัด ปัญหาการจราจร ขยะที่เพิ่มขึ้น หรือค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • 35% ระบุว่า การจราจรติดขัดจากนักท่องเที่ยวเป็นปัญหาสำคัญ
  • 30% มองว่า “ขยะ” คือผลพวงที่สร้างความกังวล
  • 29% ชี้ว่าความแออัดทำให้คุณภาพชีวิตลดลง
  • 38% อยากให้สังคมเข้าใจความจำเป็นของผู้คนในพื้นที่มากขึ้น

แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่ 57% ของชุมชน ยังคงมองว่าการท่องเที่ยวส่งผลดีต่อชุมชนของตน และมีเพียง 16% เท่านั้น ที่เห็นว่าการ “จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว” คือคำตอบ

สิ่งที่ชุมชนต้องการเห็นกลับเป็นการ “ลงทุนในชุมชน” มากกว่า เช่น

  • การปรับปรุงระบบขนส่ง (38%)
  • การบริหารจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพ (37%)

จากผู้มาเยือน สู่ผู้ร่วมดูแลจุดหมาย

ท่ามกลางกระแสการเดินทางที่เพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนบทบาทของตนเอง จากผู้บริโภคประสบการณ์สู่ผู้ร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับพื้นที่ที่ตนไปเยือน

  • 73% ของนักท่องเที่ยวต้องการให้เงินที่ใช้ระหว่างทริปกลับคืนสู่ชุมชน
  • 69% ต้องการทิ้งสถานที่ที่ไปเยือนให้ดีกว่าเดิม
  • 77% แสวงหาประสบการณ์ที่แท้จริงและสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น

ในขณะที่ 54% ของชาวบ้าน ก็เห็นว่านักท่องเที่ยว “สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น” และ 53% ระบุว่านักท่องเที่ยว “เคารพขนบธรรมเนียม” ของพื้นที่

พฤติกรรมเพื่อความยั่งยืนกำลังกลายเป็นเรื่องปกติ

หนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนของเทรนด์นี้ คือการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการใช้พลังงานและลดของเสีย

ในปี 2020 มี 43% ของนักท่องเที่ยวที่ปิดแอร์หรือฮีตเตอร์เมื่อไม่อยู่ในห้องพัก แต่ในปี 2023 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 67% การใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แนวคิดเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “พฤติกรรมพื้นฐาน” ของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่

เลือกเส้นทางที่ไม่ซ้ำใคร และไม่ซ้ำผลกระทบ

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความแออัด นักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

  • 39% ขอคำแนะนำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คนเที่ยวน้อย
  • 36% เลือกไปยังจุดหมายทางเลือก แทนการแห่ไปที่เดิมในช่วงพีค

การเดินทางจึงไม่ใช่แค่จะไปไหนแต่เริ่มตั้งคำถามด้วยว่าควรไปเมื่อไหร่และควรไปอย่างไร

ความเห็นจาก Booking.com

Danielle D’Silva ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนของ Booking.com กล่าวไว้ว่า

เพื่อให้จุดหมายปลายทางยังสามารถสร้างความสุขให้ทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ โครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมต้องพัฒนาให้ทันกับเจตนารมณ์ของผู้เดินทาง

นอกจากนี้ยังเน้นว่า Booking.com ในฐานะผู้ให้บริการท่องเที่ยว ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้การตัดสินใจของทั้งนักเดินทางและพันธมิตรของบริษัทง่ายขึ้นและมั่นใจขึ้นว่าสิ่งที่พวกเขาเลือกนั้น จะส่งผลดีต่อโลกใบนี้