3 วิธีที่พระสันตะปาปาฟรานซิสเปลี่ยนโลกผ่านประเด็นโลกร้อน

22 เม.ย. 2568 | 23:00 น.

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสไม่ได้เพียงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นหนึ่งในเสียงสำคัญของโลกในประเด็นวิกฤตภูมิอากาศ

นครรัฐวาติกันประกาศการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสอย่างเป็นทางการ  ตามข้อมูล พระองค์ทรงกำเนิดที่ประเทศอาร์เจนตินา และเป็นพระสันตะปาปาจากคณะเยซูอิตพระองค์แรก ได้เห็นการทำลายล้างป่าแอมะซอนและความยากลำบากของชุมชนยากจนในอเมริกาใต้ ความห่วงใยของพระองค์ต่อความยุติธรรมสำหรับชุมชนที่เปราะบาง และการปกป้องโลก ควบคู่ไปกับบทบาทของพระองค์ในฐานะผู้นำทางศาสนา

ในสมณสาส์นฉบับแรก “Laudato Si’” พระองค์ทรงเรียกร้องให้ทุกคน ไม่ใช่แค่ชาวคาทอลิก ให้หันมาใส่ใจความเปราะบางของทั้งโลกและผู้คน พระองค์ทรงเขียนไว้ว่า

สิ่งที่เราต้องการคือ การปฏิวัติทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ในฐานะนักเทววิทยา ข้าพเจ้าตระหนักดีว่าพระองค์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลก

พระสันตะปาปาฟรานซิส เผยแพร่สมณสาส์น Laudato Si ในช่วงเวลาสำคัญในปี 2015 ก่อนการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (COP21) ที่กรุงปารีส ต่อมาในเดือนตุลาคม 2023 พระองค์ได้ออกเเถลงการณ์ฉบับต่อเนื่องชื่อ Laudate Deum ก่อนการประชุม COP28 ที่นครดูไบ

การตัดสินใจต่าง ๆ ในที่ประชุมระดับโลก เปลี่ยนไปเพราะอิทธิพลของพระสันตะปาปาหรือไม่ มีความเป็นไปได้ใช่ ใน Laudate Deum พระองค์ทรงแสดงทั้งกำลังใจและความผิดหวังเล็กน้อยต่อความก้าวหน้าของข้อตกลงระหว่างประเทศที่มีอยู่

พระองค์ทรงตำหนิความอ่อนแอของการเมืองระหว่างประเทศ และทรงเชื่อว่า COP21 คือ “ช่วงเวลาสำคัญ” เพราะเป็นข้อตกลงที่ทุกประเทศมีส่วนร่วม

หลัง COP21 พระองค์ชี้ให้เห็นว่าหลายประเทศล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส ซึ่งมีเป้าหมายในการจำกัดอุณหภูมิโลกในศตวรรษนี้ไม่ให้เกิน 2 องศา พระองค์ยังทรงกล่าวถึงการขาดกลไกติดตามผล และความเฉื่อยชาทางการเมืองที่ตามมา พระองค์ใช้ตำแหน่งที่มีอิทธิพลเพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้มีอำนาจ

การส่งเสริมจิตสำนึกทางศีลธรรมต่อการกระทำที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในระดับการเมืองระหว่างประเทศและในระดับท้องถิ่น เป็นสิ่งที่ พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 และ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 เคยทำมาก่อน แต่พระสันตะปาปาฟรานซิสก้าวไปไกลกว่านั้น โดยเชื่อมโยงกับขบวนการระดับรากหญ้าอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

การสนับสนุนชนพื้นเมือง

COP28 ถือเป็นครั้งแรกที่เกือบ 200 ประเทศ เห็นพ้องร่วมกันในการเปลี่ยนผ่านออกจากการใช้พลังงานฟอสซิล การแทรกแซงของพระสันตะปาปาฟรานซิสอาจช่วยขยับให้ใกล้เป้าหมายที่ต้องการมากขึ้น

การเน้นย้ำของพระองค์ในเรื่อง “การรับฟังเสียงของชนพื้นเมือง” อาจส่งอิทธิพลต่อที่ประชุมเหล่านี้ หากเปรียบเทียบกับการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศก่อนหน้านี้ COP28 อาจกล่าวได้ว่าเปิดโอกาสมากขึ้นในการรับฟังเสียงของชุมชนชนพื้นเมือง

อย่างไรก็ตาม ชนพื้นเมืองหลายกลุ่มก็ยังรู้สึกผิดหวังกับผลลัพธ์ของ COP28 คำเตือนใจอีกฉบับหนึ่งของพระสันตะปาปาที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในชื่อ Querida Amazonia (แอมะซอเนียอันเป็นที่รัก) เผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 เป็นผลจากการพูดคุยของพระองค์กับชุมชนแอมะซอน และช่วยทำให้มุมมองของชนพื้นเมืองกลายเป็นที่รับรู้ในระดับนานาชาติ

มุมมองเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อคำสอนทางสังคมของคริสตจักรคาทอลิกในสมณสาส์น Fratelli Tutti ซึ่งหมายถึง “พี่น้องทุกคน” เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2020

สำหรับผู้คนจำนวนมากในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งอุตสาหกรรม เช่น น้ำมัน ก๊าซ หรือเหมืองแร่ แพร่หลาย การทำลายที่ดินมักเกิดควบคู่กับการคุกคามต่อชีวิตโดยตรง พระสันตะปาปาฟรานซิสได้สนับสนุนผู้ปกป้องสิ่งแวดล้อมจากชนพื้นเมือง ซึ่งหลายคนได้รับแรงบันดาลใจจากความศรัทธาอย่างแรงกล้า

ตัวอย่างเช่น บาทหลวงมาร์เซโล เปเรซ นักบวชชาวพื้นเมืองในเม็กซิโก ถูกค้ายาฆ่าตายหลังจากประกอบพิธีมิสซาในวันที่ 23 ตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นผลจากการที่ท่านลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของประชาชนและผืนแผ่นดิน

แม้ว่าจะมีนักปกป้องสิ่งแวดล้อมถูกสังหารทั่วโลกถึง 196 คนในปี 2023 พระสันตะปาปาฟรานซิสยังคงสนับสนุนผู้คนชายขอบและสิ่งแวดล้อมอย่างไม่ลดละ

การจุดประกายการเคลื่อนไหว

นักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศจากคริสตจักรต่างนิกายในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยสหวิทยาการเกี่ยวกับศาสนา เทววิทยา และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์

สิ่งที่น่าจดจำที่สุดคือ นักเคลื่อนไหวกว่า 300 คน จาก 6 กลุ่มที่แตกต่างกันระบุว่า พระสันตะปาปาฟรานซิส เป็นผู้มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมในประเด็นสภาพภูมิอากาศมากกว่า  61% 

พระสมณสาสน์ Laudato Si’ ได้ก่อให้เกิด ขบวนการ Laudato Si’ ที่ประสานงานการเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลก โดยมีองค์กรคาทอลิกเข้าร่วมกว่า 900 แห่ง และมี “นักเคลื่อนไหว Laudato Si’” หรือที่เรียกว่า “animators” อีกกว่า 10,000 คน ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในชุมชนของตนเอง

ที่มา 

  • theconversation