environment

วิกฤตสูญพันธุ์ เตือนนก 500 สายพันธุ์อาจหายไปในศตวรรษนี้

วิกฤตการสูญพันธุ์นกโลกใกล้ถึงจุดวิกฤต นักวิจัยเตือนว่ามีโอกาสมากกว่า 500 สายพันธุ์อาจหายจากโลกภายในศตวรรษหน้า ทำให้ระบบนิเวศเสี่ยงล่มสลาย

นักวิจัยระบุว่า จำเป็นต้องเร่งดำเนินมาตรการอนุรักษ์เพื่อบรรเทา “สถิติที่น่าตกใจ” ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศ โดยพบว่า นกมากกว่า 500 สายพันธุ์อาจสูญพันธุ์ภายในศตวรรษหน้า พร้อมเรียกร้องให้มี โครงการฟื้นฟูเฉพาะทางอย่างเร่งด่วน เช่น การเพาะพันธุ์ในกรงเลี้ยงและการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัย เพื่อช่วยชีวิตสายพันธุ์เฉพาะเหล่านี้

นกบางชนิด เช่น พัฟฟิน และนกบัสตาร์ดใหญ่ จะเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่หายไปจากท้องฟ้าหากแนวโน้มปัจจุบันยังดำเนินต่อไป ตามรายงานระบุ การสูญพันธุ์จะทำลายระบบนิเวศทั่วโลก

 

บทความนี้เผยแพร่ในวารสาร Nature Ecology and Evolution โดยตรวจสอบข้อมูลนกเกือบ 10,000 สายพันธุ์ (ซึ่งเป็นเกือบทั้งหมดของสายพันธุ์ที่มีอยู่) และใช้ข้อมูลจาก IUCN เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงของการสูญพันธุ์ การสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการขยายตัวและความเข้มข้นของเกษตรกรรม ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการสูญพันธุ์

แต่แม้จะยุติการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย การล่า และภาวะวิกฤตสภาพภูมิอากาศในวันนี้ สายพันธุ์นกประมาณ 250 สายพันธุ์ก็ยังคงอาจสูญพันธุ์ได้ เพราะพวกมันอยู่ในสภาวะที่ใกล้สูญพันธุ์มากอยู่แล้ว นักวิจัยพบว่าความพยายามในการอนุรักษ์ในระดับท้องถิ่น แม้จะดูเล็กน้อย แต่ก็มีความสำคัญต่อการป้องกันไม่ให้สายพันธุ์สูญพันธุ์

นกหลายสายพันธุ์ตกอยู่ในภาวะถูกคุกคามอย่างมาก จนการลดผลกระทบจากมนุษย์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยได้ สายพันธุ์เหล่านี้จำเป็นต้องมีโครงการฟื้นฟูเฉพาะทาง เช่น โครงการเพาะพันธุ์ และการฟื้นฟูถิ่นที่อยู่ เพื่อให้รอดชีวิต

เรื่องราวความสำเร็จในการอนุรักษ์แสดงให้เห็นว่าสามารถนำสายพันธุ์กลับมาจากขอบเหวของการสูญพันธุ์ได้ ในปี 1987 นกแร้งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ได้สูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ เหลือเพียงประมาณ 22 ตัวในกรงเลี้ยง ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาเพาะพันธุ์และปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 350 ตัวในป่า

รายงาน State of the World’s Birds ล่าสุดพบว่า นกเกือบครึ่งหนึ่งของโลกกำลังลดจำนวนลง การสูญเสียถิ่นที่อยู่ การตัดไม้ สายพันธุ์ต่างถิ่น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ถูกระบุว่าเป็นภัยคุกคามหลัก

วิธีแก้ปัญหาสำหรับวิกฤตการสูญพันธุ์นี้ พื้นที่คุ้มครองสามารถมีบทบาทสำคัญ ขณะที่การลดภัยคุกคามจากเกษตรกรรม การตัดไม้ การประมง การล่า และแหล่งอื่น ๆ นั้นมีความจำเป็น แต่บางสายพันธุ์ต้องการความพยายามฟื้นฟูแบบเฉพาะเจาะจง เช่น การเพาะพันธุ์และปล่อย การย้ายถิ่น หรือการให้อาหารเสริม เพื่อเอาชนะอุปสรรคในการฟื้นตัว