sustainable

ถอดรหัส 3 กลไกธุรกิจยักษ์-ไบโอเทค-เกษตรอินทรีย์ ขับเคลื่อน SE Ecosystem สู่ Net Zero

In Brief

  • องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ใช้กลไกรายการโทรทัศน์ "Win-Win" เพื่อสนับสนุนและเฟ้นหาผู้ประกอบการเพื่อสังคม (SE) ที่มุ่งแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน
  • บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech) นำเสนอนวัตกรรมการผลิตเม็ดพลาสติกจากสาหร่ายผักกาดทะเล ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ใน 6 เดือนเพื่อทดแทนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
  • โมเดลธุรกิจเกษตรอินทรีย์นำเสนอนวัตกรรมเครื่องย่อยขยะอาหารให้เป็นปุ๋ยภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาขยะและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับพื้นที่

งาน Sustainability Forum 2026 ซึ่งจัดขึ้นโดย กรุงเทพธุรกิจ ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2568 ณ สามย่านมิตรทาวน์ ภายใต้หัวข้อ Shift Forward: Overcoming Challenges ได้รวบรวมผู้บริหารและผู้ประกอบการจากหลากหลายวงการมาร่วมเสวนาและนำเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมที่ยั่งยืน โดยเน้นที่การใช้กลไกทางธุรกิจและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่องการทำธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) และการสร้างนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

การเสวนาครั้งนี้ได้รวบรวมผู้ประกอบการและนักนวัตกรรมที่ใช้กลไกทางธุรกิจและเทคโนโลยีในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าร่วมเสวนาได้นำเสนอโมเดลธุรกิจที่สามารถขยายผลได้จริงทั้งในด้านเทคโนโลยีชีวภาพและการจัดการขยะอาหารแบบครบวงจร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนความยั่งยืนในระดับประเทศ

นางสาวต้องใจ ธนะชานันท์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานความยั่งยืนและกลยุทธ์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความยั่งยืนไม่สามารถทำได้โดยลำพังและองค์กรใหญ่ต้องสนับสนุนธุรกิจเล็กๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กลไกหลักในการขับเคลื่อนที่องค์กรได้สร้างขึ้นคือรายการโทรทัศน์ "Win-Win" ซึ่งมุ่งเฟ้นหาผู้ประกอบการ SE หรือ Startup ที่มุ่งมั่นสร้างธุรกิจที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

เป้าหมายของรายการคือการช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กที่เติบโตขึ้นและตอบโจทย์ปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมจะเป็นส่วนสำคัญในการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงและจะช่วยให้เกิดโซลูชันที่ขยายตัวได้ รายการนี้ให้ความสำคัญกับ "Mindset" หรือวิธีคิดที่ว่าทำธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเป็น Social Enterprise เสมอไป

นางสาวต้องใจ ธนะชานันท์

การตัดสินในรายการจะคำนึงถึงความสมดุลระหว่าง Planet และ Profit และจะถามคำถามยาก ๆ เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันพิสูจน์ว่าธุรกิจของพวกเขาสามารถอยู่รอดได้จริง รายการ Win-Win ได้เข้าสู่ซีซันที่ 7 และจะเข้าสู่ซีซันที่ 8 ในปีหน้า โดยองค์กรตั้งใจจะจัดให้ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นศิษย์เก่า (Alumni) ได้พบปะกันเพื่อพัฒนาธุรกิจร่วมกัน

นาย สดาวุธ การะเกตุ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท นาโน ออเนี่ยนส์ จำกัด กล่าวว่า ได้นำเสนอเทคโนโลยีที่ใช้ในการทดแทนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยบริษัทใช้สาหร่ายผักกาดทะเลที่ปลูกในประเทศไทยเพื่อผลิตเม็ดเรซิ่นที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติภายใน 6 เดือน

ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเทคโนโลยีนี้เป็นไบโอเบส 100% และสามารถทดแทนพลาสติกได้ในหลายรูปแบบ โดยไม่ทิ้งไมโครพลาสติกเมื่อย่อยสลาย. เทคโนโลยีนี้ยังสามารถใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น หลอด หรือช้อนส้อมที่ย่อยสลายได้ในธรรมชาติภายใน 6 เดือน

ในมิติทางสังคม, บริษัทได้ลงทุนกับวิสาหกิจชุมชนในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล ซึ่งช่วยสนับสนุนการพัฒนาชุมชนและสร้างความยั่งยืนในท้องถิ่น. ปัจจุบันเริ่มต้นที่วิสาหกิจชุมชน 1 แห่งใน อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี และมีแผนขยายไปที่กระบี่. บริษัทกำลังระดมทุนเพิ่มเติมเพื่อการเติบโตและเป้าหมายคือการแทนที่พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทั้งหมดในอุตสาหกรรม F&B

นาย สดาวุธ การะเกตุ

นาย อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการของบริษัท สวนสามพราน จำกัด ได้นำเสนอนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจที่เน้นการแก้ปัญหาขยะอาหารและการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่. เขาเริ่มทำงานด้านเกษตรอินทรีย์มาแล้วกว่า 10 ปี เพื่อช่วยลดการใช้สารเคมีและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

นาย อรุษ นวราช

ในเรื่องของการจัดการขยะอาหาร, เขาได้นำเสนอการใช้เครื่อง "ชูชก" ซึ่งเป็นเครื่องย่อยขยะอาหารให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ภายใน 1 วัน. กระบวนการนี้ใช้จุลินทรีย์ธรรมชาติในการย่อยสลายขยะอาหาร ซึ่งสามารถผลิตปุ๋ยได้ใน 24 ชั่วโมง และปุ๋ยที่ได้มีธาตุอาหารครบถ้วนดีกว่าปุ๋ยเคมี

โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เขานำเสนอเน้นการทำงานแบบ Area-based โดยสร้างต้นแบบในจังหวัดต่าง ๆ เช่น ภูเก็ต โดยร่วมกับโรงแรมและเรือนจำในพื้นที่เพื่อจัดการขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ. ก้าวต่อไป, เขามีแผนจะจัด "Food Waste Journey Tour" ให้กับผู้เข้าร่วมประชุม GSTC ที่ภูเก็ตในเดือนเมษายนปีหน้าเพื่อให้เห็นกระบวนการจัดการขยะอาหาร