sustainable

"เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้" ชูแนวทางอสังหาฯ รับมือวิกฤตโลกร้อน

In Brief

  • เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ นำเสนอวิสัยทัศน์และแผนงานด้านความยั่งยืนของภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ชู 6 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน อาทิ การลดคาร์บอน (Decarbonization) การใช้พลังงานหมุนเวียน และการสร้างความยืดหยุ่นทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience)
  • ยกตัวอย่างโครงการพัฒนาพื้นที่ถนนพระราม 4 ที่มุ่งเน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อสร้างเมืองที่ยั่งยืน

ในงาน "Sustainability Forum 2026" ที่จัดโดย "กรุงเทพธุรกิจ" ระหว่างวันที่ 3-4 ธันวาคม 2568 ที่สามย่านมิตรทาวน์ นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (FRER Property) ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และแผนงานด้านความยั่งยืน ภายใต้หัวข้อ “Sustainability Chain: Do It Now” โดยนำเสนอถึงบทบาทของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

วิสัยทัศน์และเป้าหมายสู่ความยั่งยืน

นายปณต กล่าวว่า กลุ่ม FRER Property เชื่อว่าความยั่งยืนไม่ใช่แค่สิ่งที่โลกต้องการ แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาในอนาคต โดยได้มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีแนวทางที่สำคัญ ได้แก่

  • เศรษฐกิจพอเพียง: การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) มาใช้ในการพัฒนาเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความยั่งยืนที่เชื่อมโยงกับการรับมือกับความเสี่ยงอย่างพอดี

 

  • Life Cycle Management: การบริหารจัดการทรัพย์สินตลอดวงจรชีวิตของโครงการ โดยเชื่อว่า "การสร้างโครงการ" เป็นเพียง 30% ของอายุโครงการทั้งหมด และการจัดการที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โครงการดำเนินการได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพ
  • ความรับผิดชอบของอุตสาหกรรมอสังหาฯ: อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะในเขตเมืองที่ส่งผลกระทบสูงถึง 70%

นายปณต สิริวัฒนภักดี

การรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

กลุ่ม FRER Property เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่โลกต้องเผชิญ โดยปีที่ผ่านมาเป็นปีที่อุณหภูมิสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของมนุษย์

  • การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่สูงขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียสจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยสัตว์จะสูญเสีย 18% พืช 16% และปะการังใต้น้ำอาจสูญหายถึง 99%
  • เป้าหมายการจำกัดอุณหภูมิไม่ให้เกิน 2.5-2.9 องศาเซลเซียสได้กลายเป็นเป้าหมายที่จำเป็นและเร็วกว่าแผนที่คาดการณ์ไว้

6 กลยุทธ์หลักเพื่อความยั่งยืน

ในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน กลุ่ม FRER Property ได้วาง 6 กลยุทธ์หลักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งได้แก่

  1. Decarbonization (การลดคาร์บอน): การดำเนินงานเสร็จสมบูรณ์ใน Scope 1 และ 2 และอยู่ในแผนการขับเคลื่อน Scope 3 ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกับ Ecosystem ทั้งหมด
  2. Renewable Energy (พลังงานหมุนเวียน): การบรรลุเป้าหมาย 215 MW โดยสามารถบรรลุ 78 MW ในปัจจุบัน โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการเชื่อมต่อพลังงานหมุนเวียน.
  3. Climate Resilience (ความยืดหยุ่นทางสภาพภูมิอากาศ): การประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความเสี่ยงที่เกิดจากน้ำท่วมและแผ่นดินไหว
  4. Green Certification (การรับรองสีเขียว): สร้างมาตรฐานเพื่อการรับรองความยั่งยืนในทุกรายละเอียด
  5. Responsible Sourcing (การจัดหาอย่างรับผิดชอบ): การรับรองการจัดหาวัสดุจากแหล่งที่มีความรับผิดชอบตามมาตรฐานระดับสากล
  6. Nature/Biodiversity (ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ): การสร้างกรอบการทำงานเพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพในเมือง

นายปณต สิริวัฒนภักดี

ความท้าทายในกรุงเทพฯ ในฐานะเมกะซิตี้

กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมกะซิตี้ที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน

  • ความร้อนสูงกว่า: กรุงเทพฯ มีอุณหภูมิที่ร้อนกว่าเกือบ 2 ถึง 2.8 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับพื้นที่ปริมณฑล
  • พื้นที่สีเขียวไม่เพียงพอ: พื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ต่ำกว่ามาตรฐาน WHO โดยเฉพาะหากตัดทุ่งนารอบนอกออก
  • ความเสี่ยงจากน้ำท่วม: กรุงเทพฯ ยังไม่มีแผนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลอย่างชัดเจน
  • มลภาวะ: ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และรถยนต์ที่มีจำนวนมากกว่าคนเดิน

กลุ่ม FRER Property มุ่งเน้นการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (Blue Line) ซึ่งเป็นเส้นแกนสำคัญในการพัฒนาเมือง โดยมีโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ถนนพระราม 4 ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ พร้อมทั้งพัฒนาพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในเมือง

โครงการนี้มีการออกแบบโดยเน้นการสร้าง Line Park และพื้นที่สีเขียวกว่า 42,000 ตารางเมตร รวมถึงการสร้างมาตรฐาน Well Standard Building เพื่อยกระดับคุณภาพอาคารในเมือง การพัฒนาโครงการนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 21% และทำให้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำได้มากถึง 25%