sustainable

เปิดข้อมูลฝนถล่มภาคใต้ 'จะนะ สงขลา' สะสม 7 วัน 1,350 มม. พัทลุงวันเดียว 380 มม.

In Brief

  • อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมในรอบ 7 วัน สูงที่สุดถึง 1,350 มิลลิเมตร
  • จ.พัทลุงเผชิญฝนตกหนัก โดยที่ อ.ป่าบอน มีปริมาณฝนสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมง วัดได้ 380 มิลลิเมตร
  • หลายพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างมีปริมาณฝนสะสมสูงในระดับวิกฤต โดยมีถึง 9 แห่งที่วัดปริมาณฝนสะสม 7 วันได้เกิน 1,000 มิลลิเมตร
  • สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องเพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเป็นวงกว้างในหลายจังหวัด

คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)  หรือ สสน. เปิดเผยรายงานสถานการณ์ฝนในพื้นที่ภาคใต้ แสดงให้เห็นถึงปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักในระดับวิกฤตต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยพบจุดที่วัดปริมาณน้ำฝนสะสม 7 วัน สูงกว่า 1,300 มิลลิเมตร และในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด ยังคงมีปริมาณฝนเกิน 300 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงสูงของการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่ขยายวงกว้าง

สถิติปริมาณน้ำฝนสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมง (Heavy Rainfall)

ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนในภาคใต้ยังคงอยู่ในเกณฑ์ "หนักมาก" (มากกว่า 90 มิลลิเมตร) โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนล่างของภาค มีการบันทึกปริมาณฝนสูงสุดเกิน 300 มิลลิเมตรในสองจังหวัดหลัก:

  • ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง วัดได้สูงสุด 380.0 มิลลิเมตร ณ เวลา 16:00 น.
  • ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา วัดได้ 322.0 มิลลิเมตร ณ เวลา 16:00 น.
  • ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง วัดได้ 319.6 มิลลิเมตร ณ เวลา 18:00 น.

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ที่ปริมาณฝนใกล้เคียง 300 มิลลิเมตร ได้แก่ ต.จะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี 298.0 มิลลิเมตร ณ เวลา 16:00 น. และ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 286.3 มิลลิเมตร ณ เวลา 07:00 น..

สถานการณ์ฝนตกหนักเกิน 200 มิลลิเมตร

ปริมาณน้ำฝนเกิน 200 มิลลิเมตรมีการกระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัด:

  • สงขลา: ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ 266.5 มิลลิเมตร, ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา 204.8 มิลลิเมตร, และ ต.บ้านนา อ.จะนะ 202.6 มิลลิเมตร.
  • ตรัง: ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว 232.0 มิลลิเมตร และ ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน 212.5 มิลลิเมตร.
  • พัทลุง: ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด 221.5 มิลลิเมตร.
  • นราธิวาส: ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส 213.8 มิลลิเมตร.
  • สตูล: ต.ควนโดน อ.ควนโดน 202.5 มิลลิเมตร.

ปริมาณฝนเกิน 100 มิลลิเมตร

ปริมาณฝนที่ยังคงหนักต่อเนื่องเกิน 100 มิลลิเมตรกระจายอยู่ทั่วภูมิภาค เช่น:

  • สงขลา: ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ 191.5 มิลลิเมตร, ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ 159.6 มิลลิเมตร, ต.เทพา อ.เทพา 153.5 มิลลิเมตร, ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา 148.8 มิลลิเมตร, ต.พิจิตร อ.นาหม่อม 100.4 มิลลิเมตร.
  • ตรัง: ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน 171.5 มิลลิเมตร, ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน 150.0 มิลลิเมตร, ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา 146.0 มิลลิเมตร, ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด 120.0 มิลลิเมตร, ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา 126.5 มิลลิเมตร.
  • นครศรีธรรมราช: ต.ลานสกา อ.ลานสกา 136.0 มิลลิเมตร, ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง 126.2 มิลลิเมตร, ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ 116.5 มิลลิเมตร, ต.กำโลน อ.ลานสกา 114.0 มิลลิเมตร และ 102.0 มิลลิเมตร.
  • พัทลุง: ต.โคกสัก อ.บางแก้ว 141.6 มิลลิเมตร, ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม 141.0 มิลลิเมตร, ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา 131.0 มิลลิเมตร, ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต 125.0 มิลลิเมตร.

ปริมาณน้ำฝนสะสมในรอบ 7 วัน (Accumulated Deluge)

ข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสมในรอบ 7 วันที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับปริมาณน้ำมหาศาล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุทกภัยรุนแรง:

พื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมเกิน 1,000 มิลลิเมตร : ภาคใต้ตอนล่างมีจุดที่ปริมาณฝนสะสมสูงเกิน 1,000 มิลลิเมตร ถึง 9 แห่ง โดยมีจุดสูงสุดอยู่ที่จังหวัดสงขลา

  • ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา มีปริมาณฝนสะสมสูงสุดถึง 1,350.0 มิลลิเมตร
  • ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา 1,266.8 มิลลิเมตร
  • ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี 1,237.0 มิลลิเมตร
  • ต.ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี 1,211.6 มิลลิเมตร
  • ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 1,175.6 มิลลิเมตร
  • ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี 1,129.2 มิลลิเมตร
  • ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ฝนหนักใน 24 ชั่วโมง ก็มีปริมาณฝนสะสมสูงถึง 1,073.6 มิลลิเมตร
  • ต.พิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา 1,069.6 มิลลิเมตร
  • ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 1,001.0 มิลลิเมตร

ปริมาณฝนสะสม 900 มิลลิเมตรขึ้นไป : พื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมใกล้เคียงหรือเกิน 900 มิลลิเมตร ยังคงอยู่ในหลายอำเภอของจังหวัดปัตตานี สงขลา ยะลา และพัทลุง:

  • สงขลา: ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา 980.4 มิลลิเมตร, ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ 974.8 มิลลิเมตร, ต.นาทวี อ.นาทวี 902.4 มิลลิเมตร.
  • ปัตตานี: ต.มายอ อ.มายอ 973.6 มิลลิเมตร, ต.ท่าข้าม อ.ปะนาเระ 910.2 มิลลิเมตร, ต.ยามู อ.ยะหริ่ง 908.4 มิลลิเมตร, ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ 904.6 มิลลิเมตร, ต.ยะรัง อ.ยะรัง 903.4 มิลลิเมตร.
  • ยะลา: ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา 958.0 มิลลิเมตร.
  • พัทลุง: ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน 929.6 มิลลิเมตร, ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน 893.6 มิลลิเมตร.

ปริมาณฝนสะสม 800 มิลลิเมตรขึ้นไป : แม้แต่พื้นที่ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มสูงสุด ก็ยังได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนสะสมที่สูงมาก:

  • สตูล: ต.วังประจัน อ.ควนโดน 885.2 มิลลิเมตร.
  • ยะลา: ต.พร่อน อ.เมืองยะลา 864.0 มิลลิเมตร.
  • นราธิวาส: ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ 849.6 มิลลิเมตร.
  • พัทลุง: ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา 841.4 มิลลิเมตร, ต.โคกสัก อ.บางแก้ว 816.4 มิลลิเมตร.
  • ปัตตานี: ต.ตุยง อ.หนองจิก 854.4 มิลลิเมตร.

ภาพรวมและผลกระทบ:

ปริมาณฝนสะสมที่สูงลิ่วเช่นนี้ โดยมีค่าสูงสุดถึง 1,350.0 มิลลิเมตร ในรอบ 7 วัน สะท้อนให้เห็นว่าหลายอำเภอในภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา ปัตตานี และพัทลุง กำลังประสบกับปัญหาการระบายน้ำที่รุนแรงและยาวนาน เนื่องจากดินได้อิ่มตัวด้วยน้ำอย่างสมบูรณ์แล้ว

การที่มีฝนตกในระดับ "หนักมาก" (>90 มิลลิเมตร) อย่างต่อเนื่องในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดทั่วหลายจังหวัด ตั้งแต่ พัทลุง ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง สตูล นราธิวาส ไปจนถึงนครศรีธรรมราช ยิ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมให้วิกฤตมากขึ้นไปอีก

 

ที่มาข้อมูล - คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ