sustainable

‘พลังงาน’ ดันผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน ขึ้นแท่นสินค้ารักษ์โลก

In Brief

  • กระทรวงพลังงานส่งเสริมผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนให้เป็นสินค้ารักษ์โลก โดยเน้นกระบวนการผลิตที่ลดการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • นำร่องกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบรนด์ “ควีน” จ.อุตรดิตถ์ ที่ใช้เทคโนโลยีตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์จาก กฟผ. เพื่อช่วยลดต้นทุนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
  • ขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังร้านค้าในสถานีบริการน้ำมันชั้นนำทั่วประเทศ เช่น PT MaxMart และร้านไทยเด็ด เพื่อเพิ่มรายได้ให้ชุมชนและเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่

นางพัทธ์ธีรา สายประทุมทิพย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงได้ดำเนินการยกระดับผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนอุตรดิตถ์ไปสู่สินค้ารักษ์โลก

โดยจะเป็นสินค้าชุมชนที่มีกระบวนการผลิตที่ลดใช้พลังงาน ลดปริมาณของเสียในกระบวนการ และเป็นสินค้ารักษ์โลกที่พร้อมขยายฐานการจำหน่ายสู่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น 

ซึ่งล่าสุดได้ยกระดับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อย อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ผู้ผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบรนด์ “ควีน” เพื่อเป็นการการันตีว่าสินค้าชุมชนดังกล่าวได้ผ่านการตรวจวัดและผ่านเกณฑ์ของกระทรวงพลังงาน

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการใช้ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ในกระบวนการอบแห้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง ลดการปล่อยก๊าซ CO2 และประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

รวมถึงผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยการใช้แรงงานคนในการแกะและกะเทาะเม็ดมะม่วงฯเพื่อให้ได้เมล็ดที่สวยสมบูรณ์สร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างอาชีพในชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ได้รับมาตรฐานด้านต่างๆ ได้แก่ อย., เครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ

‘พลังงาน’ ดันผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน ขึ้นแท่นสินค้ารักษ์โลก

,มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน และผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว จนกลายเป็นหนึ่งในสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 2.5  ล้านบาท/ปี หากคิดเป็นผลิตภัณฑ์ 1 ห่อ ขนาด 100 กรัม จะปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 0.119 กิโลกรัม CO2 เทียบเท่า 

สำหรับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ควีน ซึ่งส่งเสริมโดย กฟผ.  ได้ผ่านเกณฑ์สินค้าชุมชนลดใช้พลังงาน เป็นสินค้ารักษ์โลกใหม่ที่ถูกคัดเลือกเพื่อจำหน่ายในร้าน PT MaxMart ในสถานีบริการน้ำมัน PT กว่า 100 สาขาทั่วประเทศ และร้านไทยเด็ด ของ PTT OR ในเร็วๆนี้ โดยนอกจากจะทำให้เกษตรกรเจ้าของสินค้าชุมชนดังกล่าวมีรายได้จากการจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว  ทางสถานีบริการน้ำมันเองก็มีส่วนช่วยสังคมในการสนับสนุนสินค้าชุมชนรักษ์โลกช่วยลดโลกร้อนได้อีกทาง    

อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไปกระทรวงฯจะพัฒนาความร่วมมือกับผู้ค้ารายอื่นๆเพื่อทำให้โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จทั้งรายได้ของเกษตรกรต้นน้ำ  ทั้งการเข้าถึงสินค้าได้ง่ายตามร้านจำหน่ายในปั้มน้ำมัน  และที่สำคัญผู้บริโภคก็สามารถสนับสนุนสินค้าชุมชนที่ช่วยลดโลกร้อนได้ง่ายๆใกล้ตัว

ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมพลังงานระดับชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 มีการเร่งพัฒนาผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงานให้เป็นที่รู้จัก และสามารถขยายตลาด ซึ่งมีการดำเนินการร่วมกับ 5 บริษัทสถานีบริหารน้ำมันชั้นนำของประเทศ และร้านค้าในเครือข่าย ได้แก่ OR, Shell, Susco, Caltex  และ PT เพื่อสร้างเครือข่ายและขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ขยายฐานลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่ และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน   

“กระทรวงพลังงานเตรียมนำเสนอแคมเปญ ผลักดันผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงาน เพื่อสร้างสรรค์มุมมองใหม่ของการบริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน และยกระดับสินค้าของชุมชนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”

นายโสภณ มณีโชติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน กล่าว่า กรทรวงฯมุ่งส่งเสริมชุมชนในสามารถบริหารจัดการต้นทุนด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์จากทุกๆชุมชนทั่วประเทศ   โดยตราสัญลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ชุมชน ลดใช้พลังงานเป็นวิธีการหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าสินค้าชุมชนได้ยกระดับเป็นสินค้ารักษ์โลกได้   ตามเกณฑ์สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ 1.คุณภาพผลิตภัณฑ์ 2.ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 3.การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และ 4.การจัดการของเสียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

“ชุมชนบ้านหาดไก่ต้อย สะท้อนว่าเมื่อมีการลงทุนด้านพลังงานที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ยังสร้างรายได้ และงานในท้องถิ่น  ซึ่งตอนนี้ทางกระทรวงพลังงานก็ยังส่งเสริมไปถึงการขายสินค้ารักษ์โลกดังกล่าวไปตามร้านมินิมาร์ท ร้านกาแฟ ในสถานีบริการน้ำมันต่างๆ”