sustainable

‘TCMA’ ปักเป้าดันอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์สู่ Net Zero ปี 2593

In Brief

  • สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ตั้งเป้าหมายนำพาอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์สู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593
  • แนวทางหลักในการดำเนินการคือการเปลี่ยนผ่านไปใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ พลังงานสะอาด และการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • มีการขับเคลื่อนโครงการต้นแบบ "SARABURI SANDBOX" เพื่อพัฒนาจังหวัดสระบุรีให้เป็นเมืองคาร์บอนต่ำ โดยร่วมมือกับพันธมิตรหลายภาคส่วน
  • การมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในตลาดโลก

ดร.ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (Thai Cement Manufacturers Association: TCMA) เปิดเผยว่า ได้มีการวางเป้าดำเนินการทำให้อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์สู่เป้าหมายการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2593 

โดยการนำเป้าหมายมาสู่การลงมือทำ เช่น การผลิตและเปลี่ยนผ่านการใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก ในทุกงานก่อสร้างของไทย การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดการลดพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานคาร์บอนต่ำ การเชื่อมโยงเทคโนโลยีนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มจากคาร์บอน 

รวมถึงการทำงานเชิงพื้นที่ ขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัดสระบุรีสู่เมืองคาร์บอนตํ่า SARABURI SANDBOX LOW CARBON CITY ผ่านโครงการต้นแบบต่างๆ ด้วยแรงหนุนจากภาคีพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม 

และองค์กรระดับโลกที่มีเป้าหมายลดคาร์บอน เชื่อมโยงความร่วมมือด้านเทคโนโลยี และแหล่งทุนสีเขียวร่วมกันขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero 2050

ทั้งนี้ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นวาระสำคัญระดับโลก โดยไม่เพียงแค่มีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อโลก ช่วยลดความเสี่ยงจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง 

 

องค์กรที่ปรับตัวเข้าสู่เส้นทางคาร์บอนต่ำสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตอบสนองความต้องการของคู่ค้าที่มุ่งเน้นความยั่งยืน สร้างแต้มต่อการแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดโลก 

อย่างไรก็ดี ล่าสุดการดำเนินการดังกล่าวทำให้ TCMA ได้รับรางวัลสมาคมการค้าดีเด่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงการบริหารจัดการเป็นเลิศตามพันธกิจ คุณภาพการให้บริการ และการพัฒนาองค์กร 

“การลดคาร์บอนของภาคการผลิต ยังสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาดใหม่เชื่อมโยงนวัตกรรม เทคโนโลยีสีเขียว ดึงดูดการลงทุน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และช่วยยกระดับการแข่งขันของไทยในเวทีโลกได้”