นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดในการบรรยายหัวข้อ “บทบาทความร่วมมือภาคส่วนเพื่อเป้าหมายด้าน ESG” ว่า ความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประเทศไทยให้มีความยืดหยุ่น มีความสามารถในการแข่งขัน และพร้อมรับมือกับความท้าทายกับความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ
ซึ่งทุกคนและทุกภาคส่วนต้องเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อนำพาประเทศไทยสู่การบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 โดยเดลต้ายังคงเป็นต้นแบบสำคัญของพันธมิตรภาคเอกชนของเราที่ร่วมขับเคลื่อนความเป็นเลิศด้าน ESG ในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทมุ่งสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านการแบ่งปันประสบการณ์ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์และแนวทาง ESG
รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม และนำเสนอโซลูชันสมาร์ทกรีนที่สร้างผลลัพธ์ด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การกำหนดราคาคาร์บอนภายใน ไปจนถึงนวัตกรรมสีเขียว
อย่างไรก็ดี ล่าสุดได้ดำเนินการจัดง Delta ESG Forum โดยมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวก การเสริมศักยภาพให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถปรับตัว ปฏิบัติตาม และเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”
นายวิคเตอร์ เจิ้ง กล่าวอีกว่า บริษัทได้มีการพัฒนาโซลูชันและผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยลูกค้าทั่วโลกประหยัดพลังงานไฟฟ้ากว่า 52,000 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ระหว่างปี 2553 ถึง 2567 หรือเทียบเท่ากับปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยเกือบ 3 เดือน
“เดลต้าจะมุ่งสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถบรรลุเป้าหมายและมาตรฐาน ESG ระดับโลก ผ่านการวางกลยุทธ์ การส่งเสริมนวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยแห่งอนาคต”
โมน่า หยาง ผู้จัดการแผนกความยั่งยืนองค์กร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ อิงค์ กล่าวว่า ในปี 67 เดลต้าบรรลุอัตราการใช้พลังงานหมุนเวียนสูงถึง 84% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย RE80 ที่ตั้งไว้ล่วงหน้า 1 ปี อีกทั้งยังสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 1 และ 2 ได้ถึง 53.6% ระหว่างปี 2564 ถึง 2567
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแนวทางการดำเนินงานในการกำหนดราคาคาร์บอนภายใน (Internal Carbon Pricing: ICP) ที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO₂e) หนึ่งตัน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการอนุรักษ์พลังงานและพัฒนาความยั่งยืนภายในองค์กร โดยโครงการเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเดลต้าให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ตามแนวทางของโครงการ Science Based Targets initiative (SBTi)
คาร์ธิเกยัน อารุน ที่ปรึกษาอาวุโส สำนักงานที่ปรึกษาด้าน ESG ของเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ อิงค์ บริษัทมีกรอบการทำงานด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน 4 ขั้น หรือ Delta’s 4-step Sustainability Transformation Framework ประกอบด้วย การวางกลยุทธ์ (Strategize) การมีส่วนร่วม (Engage) การเสริมสร้างศักยภาพ (Enable) และการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonize) ซึ่งภาคธุรกิจไทยสามารถนำมาใช้เป็นโรดแมปเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมไปถึงการดำเนินที่สอดคล้องกับมาตรฐาน ESG ระดับโลกได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง