‘กัลฟ์’ ยกระดับชุมชนพื้นที่สูง นำชาวดอยเรียนรู้กาแฟครบวงจรที่ดอยตุง สร้างอาชีพยั่งยืน

18 พ.ย. 2568 | 03:40 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ย. 2568 | 03:57 น.

“กัลฟ์ฯ” พาชุมชนดอยมอโก้โพคีและดอยเวียงเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟครบวงจรที่ดอยตุง ต่อยอดคุณภาพผลผลิตและสร้างอาชีพที่ยั่งยืน พร้อมตอกย้ำพันธกิจพัฒนาชุมชนตามแนวทาง ESG

KEY

POINTS

  • บริษัท กัลฟ์ฯ พาชาวบ้านจากชุมชนบนพื้นที่สูง 2 แห่ง คือ ดอยมอโก้โพคี (จ.ตาก) และดอยเวียง (จ.เชียงใหม่) ไปอบรมและศึกษาดูงานด้านการผลิตกาแฟครบวงจร ณ โครงการพัฒนาดอยตุง
  • มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนนำความรู้ไปพัฒนาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าผลผลิตกาแฟของตนเอง สามารถสร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน
  • กิจกรรมนี้เป็นการต่อยอดจากโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ของกัลฟ์ ซึ่งช่วยให้ชุมชนมีไฟฟ้าใช้ในโรงสีกาแฟ และนำมาสู่การพัฒนาองค์ความรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เดินหน้าส่งเสริมศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2568 กัลฟ์ได้พาชาวบ้านจากชุมชนดอยมอโก้โพคี อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และชุมชนดอยเวียง อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เข้าร่วมการอบรมและศึกษาดูงานด้านการผลิตกาแฟครบกระบวนการ ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงราย

โดยได้รับความรู้มากมาย ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์เพื่อเพาะกล้า การจัดการแปลงกาแฟอย่างเหมาะสม การบำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงการฝึกชิมกาแฟเพื่อประเมินคุณภาพและรสชาติ ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญที่จะช่วยให้ชุมชนสามารถพัฒนากาแฟของตนเองให้มีมาตรฐานสูงขึ้น และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

นางสาวญาณิศา วัฒนคำนวณ ผู้อำนวยการด้านการบริหารฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม GULF กล่าวว่า “กิจกรรมนี้เกิดจากการที่กัลฟ์ได้ไปติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับทั้ง 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนดอยเวียง และชุมชนมอโก้โพคี ซึ่งพบว่าทั้งสองชุมชนมีการปลูกกาแฟอยู่แล้ว แต่ยังขาดโรงสีกาแฟที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง การติดตั้งโซลาร์เซลล์ช่วยให้กระบวนการสีกาแฟมีคุณภาพดีขึ้น

‘กัลฟ์’ ยกระดับชุมชนพื้นที่สูง นำชาวดอยเรียนรู้กาแฟครบวงจรที่ดอยตุง สร้างอาชีพยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม คุณภาพกาแฟโดยรวมก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร จึงเป็นที่มาของการพัฒนาต่อยอดโครงการในวันนี้ที่ได้พาชาวบ้านดอยเวียง และดอยมอโก้โพคี มาเรียนรู้กระบวนการทำกาแฟ ที่โครงการพัฒนาดอยตุง เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ให้กับชุมชนได้เรียนรู้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อให้มีองค์ความรู้เพียงพอ ที่จะไปพัฒนาแปลงปลูกของตัวเองแล้วก็ได้คุณภาพของกาแฟที่ดียิ่งขึ้นแล้วก็ส่งผลต่อรายได้ที่มั่นคงขึ้นด้วย”

 

นางสาวนาตยา จิรสกุลงาม ตัวแทนชาวบ้านดอยเวียง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า “วันนี้ได้เรียนรู้หลายเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่นกระบวนการทำกาแฟให้มีคุณภาพ การดูแลแปลงกาแฟให้เหมาะสมกับพื้นที่ การตัดแต่งกิ่งต้นกาแฟ โดยความรู้ที่ได้รับจากการเรียนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในพื้นที่ เพื่อให้การปลูกกาแฟที่ดอยเวียงได้ผลผลิตที่คุณภาพดีขึ้น สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ต้องขอบคุณบริษัทกัลฟ์ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้”

‘กัลฟ์’ ยกระดับชุมชนพื้นที่สูง นำชาวดอยเรียนรู้กาแฟครบวงจรที่ดอยตุง สร้างอาชีพยั่งยืน

นายชาญชัย ทรัพย์ประมาณ ตัวแทนชาวบ้านจากดอยมอโก้โพคี จ.ตาก กล่าวว่า “ได้รับความรู้ใหม่ ๆ จำนวนมากจากการอบรมที่ดอยตุง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทราบมาก่อน โดยตั้งใจจะนำความรู้นี้กลับไปถ่ายทอดและเล่าสู่กันฟังแก่คนในชุมชนที่ไม่สามารถมาร่วมอบรมได้ เพื่อให้เกิดการต่อยอดและพัฒนากระบวนการผลิตกาแฟที่มีประสิทธิภาพ ต้องขอขอบคุณบริษัทกัลฟ์ ที่ได้สนับสนุนและพาชุมชนให้มาไกลถึงจุดนี้ ทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักและมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง”

‘กัลฟ์’ ยกระดับชุมชนพื้นที่สูง นำชาวดอยเรียนรู้กาแฟครบวงจรที่ดอยตุง สร้างอาชีพยั่งยืน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากโครงการ “Green Energy Green Network  for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย” ที่กัลฟ์ได้ติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่งผลให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม สะท้อนถึงความตั้งใจของกัลฟ์ในการขับเคลื่อนพันธกิจด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนผ่านการเข้าถึงพลังงานสะอาด การพัฒนาองค์ความรู้ และการสนับสนุนอาชีพที่เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง ESG ที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งนี้กัลฟ์จะยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับสังคมไทยต่อไป