เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศลงราชกิจจานุเบกษา
โดยมีสาระสำคัญคือ การเปลี่ยนชื่อ “สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” กลับไปใช้ชื่อดั้งเดิมว่า “สำนักงานพระคลังข้างที่” รวมถึงปรับเปลี่ยนชื่อหน่วยงานและตำแหน่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกัน เช่น คณะกรรมการและผู้อำนวยการทรัพย์สินฯ เปลี่ยนเป็นคณะกรรมการและผู้อำนวยการพระคลังข้างที่
พระราชบัญญัติดังกล่าวยังได้กำหนดให้กิจการทั้งหมดของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ตาม พ.ร.บ. ปี 2561 ถูกโอนให้เป็นกิจการของสำนักงานพระคลังข้างที่ ภายใต้บทบัญญัติที่ได้รับการแก้ไขใหม่นี้ พร้อมทั้งให้บทบัญญัติ กฎ ระเบียบ และเอกสารทางนิติกรรมต่าง ๆ ที่อ้างถึงชื่อเดิม มีผลเป็นการอ้างถึงชื่อใหม่ตาม พ.ร.บ. นี้โดยปริยาย
อีกทั้ง มาตรา 5 ของ พ.ร.บ. ยังระบุให้มีการโอนกิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ และภาระผูกพันของสำนักพระราชวัง เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานพระคลังข้างที่ ให้มาอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักงานพระคลังข้างที่ตามกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งดำเนินการตามที่เลขาธิการพระราชวังกำหนด
เหตุผลในการตรา พ.ร.บ. ฉบับนี้ ระบุว่า เพื่อให้สอดคล้องกับโบราณราชประเพณี เนื่องจาก “พระคลังข้างที่” เป็นหน่วยงานดั้งเดิมที่มีภาระหน้าที่ในการดูแลทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มาแต่โบราณ จึงเห็นสมควรให้เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อเดิม เพื่อสืบสานประวัติศาสตร์และรูปแบบการบริหารงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
พระราชบัญญัตินี้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา และมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ