วิธีคิด“ธิดา เชิดสุริยา”ทำเลคือหัวใจปั้นพอร์ตอสังหาฯพัทยาโต1.4หมื่นล้าน

22 พ.ย. 2568 | 23:08 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ย. 2568 | 23:19 น.

วิธีคิด“ธิดา เชิดสุริยา” ซีอีโอ Honour Thailand ชี้ ทำเลคือหัวใจปั้นพอร์ตอสังหาฯพัทยา ชลบุรี โต1.4หมื่นล้านบาท

KEY

POINTS

  • ธิดา เชิดสุริยา แห่ง Honour Thailand เผยแนวคิดสำคัญที่ทำให้พอร์ตอสังหาฯ ในพัทยาเติบโตถึง 1.4 หมื่นล้านบาท คือการให้ความสำคัญกับ "ทำเล" เป็นหัวใจหลัก โดยเชื่อว่าหากทำเลดีและผลิตภัณฑ์โดดเด่น กำลังซื้อระดับบนจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ
  • กลยุทธ์ของบริษัทคือการเจียระไนที่ดินแปลงงามเปรียบเสมือน "เพชร" เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับพื้นที่โดยรอบ เช่น การพัฒนาทำเลย่านวงศ์อมาตย์ให้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของพัทยา
  • บริษัทขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 มิติ (Landscape, Image, Economic) เพื่อยกระดับพัทยา โดยมีโครงการเรือธงอย่าง "วันส์ วงศ์อมาตย์" และมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่องทั้งโรงแรมและบ้านหรู

 

แม้ภาพรวมตลาดอสังหา ริมทรัพย์ ยังเผชิญกับความท้าทาย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก แต่สำหรับ หัวเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวของไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะพัทยา จังหวัดชลบุรี จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับ 2 ของประเทศ ได้รับแรงสนับสนุนจากเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)ส่งผลให้พื้นที่คึกคัก อบอวลไปด้วยกำลังซื้อ อีกทั้งในอนาคตจะมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน รถไฟฟ้าโมโนเรลช่วยยกระดับพัทยาเป็น “ไอคอนิกซิตี้” สร้างโอกาสให้ดีเวลลอปเปอร์จากส่วนกลางและในพื้นที่พัฒนาเพิ่มมากขึ้น

เช่นเดียวกับ กลุ่มบริษัทในเครือ ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ (Honour Thailand)  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ชั้นนำในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กว่า 20 ปี  เริ่มธุรกิจเติบโตมาจากการพัฒนาโรงแรมตั้งแต่ปี 2556 และประสบความสำเร็จจาก โครงการมิกซ์ยูส ใจกลางพัทยาเหนือซึ่งเป็นเจ้าตลาดใหญ่ ล่าสุดพัฒนาโครงการเรือธง “วันส์ วงศ์อมาตย์” ( ONCE WONGAMAT)  หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากโครงการแรก และมีแผนขยายพอร์ตธุรกิจต่อเนื่องทั้งในพัทยา ภูเก็ต รวมถึงจังหวัดเมืองรอง เช่นกระบี่ ระยอง

ธิดา เชิดสุริยา

ด้วยความเป็นนักธุรกิจในพื้นที่  มาอย่างยาวนาน มักได้เปรียบในเรื่องทำเล ที่มีเป้าหมายพัฒนา อย่างเฉียบคม ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมพื้นที่โดยรอบให้ได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ที่เห็นเด่นชัด ทำเล “วงศ์อมาตย์” บริเวณวงเวียนปลาโลมา ราคาที่ดินขยับร้อนแรง หาแปลงที่ดินได้ยากยิ่งโดยเฉพาะฟรีโฮลด์ ซึ่งปัจจุบันพัฒนาเต็มพื้นที่ทั้งโรงแรมห้าดาว ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าชั้นนำ แลนด์มาร์กใหม่ของ พัทยา เทียบชั้น “หลังสวน” ทำเลศูนย์กลางธุรกิจ(CBD) กรุงเทพมหานคร      

ONCE WONGAMAT

นางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานกรรมการบริหาร  Honour Thailand  สะท้อน  วิธีคิดในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า สิ่งสำคัญคือ การเจียระไน “แปลงที่ดิน” เปรียบเสมือน “เพชร” ให้ส่องประกายแวววาวและ Wow  ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการขายโครงการได้ไม่หรือได้ ไม่ใช่โทษเศรษฐกิจแต่หากสามารถมองทะลุถึงหัวใจของกลุ่มกำลังซื้ออย่างแม่นยำเชื่อว่าไม่พลาดเป้า

 โดยมองว่าการได้มาซึ่งที่ดินแปลงงามเป็นเรื่องของ “จังหวะและโอกาส” การซื้อที่ดินบางครั้งไม่ใช่เพียงแค่การซื้อขาย แต่เป็นการตกลงแลกเปลี่ยนที่บริษัท ต้องทำตามเงื่อนไขเพื่อตอบโจทย์ผู้ขาย เช่น การต้อง “ยกระดับที่ดิน” ด้วยการสร้างคอนโดมิเนียมเป็นอันดับ 1 หรือมีคอนเซ็ปต์ที่โดนใจเจ้าของที่ดินที่มีแผนงานในอนาคตซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขยายพอร์ตที่หลากหลายและการให้ความสำคัญกับการลงทุนภายในองค์กร โดยที่ผ่านมาบริษัทมีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 มิติสำคัญ และประสบความสำเร็จได้แก่

 “ Landscape” การออกแบบภูมิทัศน์เป็นมิตรต่อชุมชน เช่น again Pattaya (Community Mall)บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ จุดนัดพบแห่งใหม่บริเวณวงเวียนปลาโลมา ใจกลางพัทยาเหนือ ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์เมืองได้อย่างลงตัว

  “Image” การสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้พัทยาเป็นเมืองที่สมดุลทั้งธรรมชาติ ไลฟ์สไตล์ คาเฟ่ ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ และที่อยู่อาศัยระดับชูเปอร์ลักชัวรี อาทิ วันส์ วงศ์อมาตย์   (ONCE WONGAMAT) ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกและโรงแรมห้าดาว

 “Economic” การมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพัทยา ผ่านธุรกิจไลฟ์สไตล์อย่าง Hey Coffee North Pattaya, Bar Voyage รวมถึงโรงแรมใหม่ Hilton Garden Inn Pattaya City ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

“วิธีคิดของ  การพัฒนาโครงการ ของ ออร์เนอร์ ไทยแลนด์  ในพัทยาจะมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ มองว่าสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีไม่ใช่ข้ออ้างในการชะลอการลงทุนมีหลักคิดที่ว่าเศรษฐกิจไม่ดีไม่ใช่เรื่องใหม่ในช่วงชีวิตของการทำธุรกิจมาตลอด 20 ปี ไม่เคยได้ยินคำว่า เศรษฐกิจดีเลย แต่ถึงแม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยลบและภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน บริษัทยังคงเติบโตมาได้ แม้แต่ในช่วงโควิด-19 ก็ยังสามารถขายโครงการได้”

ในทางกลับกัน หัวใจสำคัญของอสังหาริมทรัพย์คือ “ทำเล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลักชัวรี มองว่า กลุ่มกำลังซื้อสูงไม่กระทบ  หากทำเลดีและผลิตภัณฑ์ดี การลงทุนในกลุ่มลักชัวรียังคงเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซาส่วนใหญ่คือชนชั้นกลางลงไป ส่วนคนที่มีความมั่นคงทางการเงินเขาก็ยังคงต้องหาที่ลงทุนอยู่ดี

 การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในทำเลที่หายากและโดดเด่นในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ก็เปรียบเสมือนการเลือกซื้อ “เพชรนํ้าหนึ่ง” ที่แม้ตลาดทองคำหรือสินทรัพย์ทั่วไปจะราคาตก แต่เพชรเม็ดงามที่มีคุณภาพและแหล่งกำเนิดที่ชัดเจนยังคงรักษามูลค่าและเป็นที่ต้องการของผู้มีกำลังซื้อสูงเสมออย่างไรก็ตามความมั่นใจในการเลือกทำเล มีความละเอียดและรอบคอบสูงโดยนางสาวธิดามองว่า หากบริษัทเลือกทำเลที่ดีขนาดนี้แล้วยังไปไม่รอด เชื่อว่าโครงการอื่น ๆ ก็น่าจะแย่กว่า 

 ทั้งนี้ปัจจัยความสำเร็จ มาจากการตัดสินใจที่อิงข้อเท็จจริง  การยกระดับคุณภาพ และการสร้างความแตกต่าง ที่สำคัญต้อง ศึกษาข้อมูลก่อนลงมือทำ ยืนยันความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพัทยา โดยเฉพาะเซกเมนต์ซูเปอร์ลักชัวรี แม้เศรษฐกิจไม่ดี แต่กำลังซื้อสูงยังคงอยู่

โดยสะท้อนพอร์ตสะสมมูลค่าในอดีตอยู่ที่ประมาณ 13,000 ล้านบาท (ในช่วง 13-14 ปีที่ผ่านมา) และเมื่อรวมกับโครงการในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ มูลค่ารวมของพอร์ตจะอยู่ที่ประมาณ 14,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการในอนาคตที่สำคัญไล่ตั้งแต่ โครงการโรงแรมสูงประมาณ 20 กว่าชั้น บนที่ดิน 1.5 ไร่ บริเวณ ปากทางเข้าWalking Street โรงแรมนี้จะอยู่ในระดับกลาง (Mix-Scale) คล้ายกับ Holiday Inn Expressประมาณ 220 ห้อง ทำเลที่โดดเด่นเพราะเป็นถนนคนเดิน มูลค่าลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ในช่วงเจรจาทำ Joint Venture (JV) กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย

นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนา บ้านพักอาศัยหรู โครงการบ้านเดี่ยวจำนวน 100 ยูนิต ใกล้กับอ่างเก็บนํ้ามาบประชัน และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็นสองระยะ โดยมีราคาเฉลี่ยต่อยูนิตประมาณ 10 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายคือผู้ปกครองของนักเรียนต่างชาติ หรือนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้ผู้ปกครอง คาดว่าจะเปิดตัวในปีหน้า รวมถึงยังมี แผนพัฒนาโครงการ ลองสเตย์ รองรับการท่องเที่ยวพำนักในระยะยาว  รวมถึง เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ซึ่ง มีที่ดินด้านหลังโครงการวงศ์อมาตย์ 4.5 ไร่ ที่ยังไม่ได้พัฒนา มองว่าในอนาคตเหมาะกับธุรกิจดังกล่าวมากกว่าทำคอนโดมิเนียม ลักชัวรี เนื่องจากทำเลอาจมีวิวทะเลที่เจาะลึกเข้าไปเล็กน้อย

ขณะที่ภาพรวมของการของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนทำเลพัทยาในปัจจุบัน  ประเมินว่ามีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐาน  ในพื้นที่ ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากความสำเร็จของ วันส์ พัทยา (ONCE PATTAYA) ที่ SOLD OUT ไปแล้ว ดังนั้นเพื่อตอบรับดีมานด์ จึงพัฒนาโครงการ  วันส์ วงศ์อมาตย์ (ONCE WONGAMAT) คอนโดมิเนียมระดับ ชูเปอร์ลักชัวรี ฟรีโฮลด์  มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท แลนด์มาร์กใหม่บนทำเลพัทยาเหนือ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท

ที่นางสาวธิดา ตั้งใจว่าการพัฒนาโครงการไม่เพียงแค่สร้างคอนโดมิเนียม แต่จะเป็นส่วนหนึ่ง ของการพัฒนาเมืองพัทยาซึ่งอยู่ในพื้นที่EEC ให้เป็น “World-Class Living Destination” ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพภายใต้ “Beyond Living” เพื่อดึงดูดทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ เข้ามาใช้ชีวิตในพื้นที่มากขึ้น!!!

 

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,151 วันที่ 23 -26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568