อสังหาฯ หวังรัฐบาลใหม่เร่งสร้างความเชื่อมั่น -ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว

การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยขั้วของพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นฝ่ายค้านพลิกกลับมาเป้นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลโดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่32 และมีกระแสข่าวการดึงคนนอกมีฝีมือเข้ามาเป็นทีมเศราฐกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปภายใต้ระยะเวลา4เดือน

ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ นายสุนทร สถาพร  นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชั่วคราวและเป้าหมายสูงสุดนำไปสู่การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ในภาพรวมคือการสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกฝ่าย ได้รัฐบาลที่ดีมาแก้ปัญหาเรื่องใหญ่ๆ อย่างยั่งยืน ได้แก่ 1.เรื่องคนนี่สำคัญมาก ควรเป็น "รัฐบาลแห่งความเชื่อมั่น"

คือเลือกแต่คนมีความสามารถ เป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์ทำงานจริง มาจากภาครัฐหรือเอกชนก็ได้ แต่ต้องเป็นที่ยอมรับและเป็นกลาง ไม่ใช่การแบ่งเก้าอี้ทางการเมือง2.  ต้องการเห็นทีมเศรษฐกิจ มืออาชีพเพิ่มเติม ที่คัดจากความสามารถ มาแก้ปัญหาตรงจุด ปฏิรูปภาษีให้เป็นธรรม เช่น ภาษีลาภลอย ภาษีชาวต่างชาติที่ซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ ปรับการศึกษาให้ตรงกับงานในอนาคต ดึงนักลงทุนต่างชาติ และพัฒนาระบบโลจิสติกส์กับดิจิทัลของประเทศ

ทั้งนี้หากยุบสภาไม่ได้และต้องมีรัฐบาลชั่วคราวมองว่า เวลา 4 เดือนน่าจะพอแล้วถ้าทำงานจริง เน้นแค่ 3 งานหลัก คือ รักษาเศรษฐกิจให้มั่นคงในระยะสั้น แก้กฎหมายเลือกตั้งให้ดีขึ้น และอย่าไปสร้างโครงการใหญ่ๆ ที่จะไปผูกมัดรัฐบาลหน้า

3.นโยบายเร่งด่วนที่ควรทำทันที แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาให้ชัดเจน ทั้งเจรจาและจัดการแนวชายแดน จะเป็นรั้วหรือเขตแดนที่ชัดเจน ไม่เกิดการรุกล้ำอีก เช่น การสร้างรั้วทางกายภาพซึ่งมองว่าควรทำ  เพื่อแก้ปัญหาความเดือนร้อนประชาชนและภาคท่องเที่ยว อีกประเด็นสำคัญคือ แก้แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างจริงจัง และที่สำคัญคือต้องสื่อสารกับประชาชนและนักลงทุนให้ชัดเจน โปร่งใส จะได้กลับมามั่นใจเร็วๆ

เช่นเดียวกับนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย สะท้อนว่าควรเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อได้รัฐบาลใหม่ที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นของประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ โดยต้องแก้ไขปัญหาใหญ่ทางการเมืองเรื่องฮั้ว สว ให้ชัดเจนก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ทางการเมืองในอนาคตและการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่กติกาการเลือกตั้งใหม่ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

ควรปรับเขตการ เลือกตั้งให้ขนาดใหญ่ขึ้น เข่น เป็นกลุ่มจังหวัด เพื่อป้องกันการซื้อเสียง เปิดทางให้ผู้บริหารที่มีฝีมือความสามารถมีความซื่อสัตย์เป็นที่ยอมรับของประขาชนส่วนใหญ่เข้าสู่สภาผู้แทนและวุฒิสภา โดยไม่ต้องซื้อเสียง นำไปสู่ ครม. มืออาขีพที่มีความรู้ความสามารถและะความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ยอมรับของประขาขน มีความสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ เพื่อนำสู่การแก้ปัญหาเขิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมระยะยาวของประเทศได้อย่างแท้จริง