สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอให้ภาครัฐเร่งแก้ไขและจัดทำกฎหมายเฉพาะ เพื่อกำกับดูแลการปล่อยเช่าที่พักระยะสั้น ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ขณะที่กฎหมายปัจจุบันยังไม่รองรับการให้บริการที่หลากหลายและไม่สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน
นายเขมภัทร ทฤษฎิคุณ นักวิจัยอาวุโส ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า แม้ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนทางกฎหมาย แต่ความต้องการที่พักแบบเช่าระยะสั้นของนักท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประเทศไทยจึงควรมีกรอบกฎหมายสมัยใหม่ที่สร้างสมดุลระหว่างสิทธิของเจ้าของทรัพย์สิน สิทธิของเจ้าของร่วมในอาคารชุด และผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ พร้อมทั้งสามารถส่งเสริมภาคท่องเที่ยวให้สอดรับกับเทรนด์ระดับโลกที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ ทีดีอาร์ไอเสนอแนวทางกำกับดูแลสองระดับ ได้แก่ การกำกับโดยภาครัฐผ่านการจดทะเบียนที่พักระยะสั้นทางออนไลน์ เพื่อให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีและกำหนดมาตรฐานได้ทั่วถึง และการร่วมกำกับโดยชุมชน โดยให้นิติบุคคลอาคารชุดมีสิทธิกำหนดนโยบาย อาทิ เงื่อนไขการปล่อยเช่า ค่าบำรุงส่วนกลางสำหรับยูนิตที่ปล่อยเช่า และการจำกัดจำนวนยูนิตที่อนุญาตให้ปล่อยเช่าในแต่ละอาคาร
นางสาววิชญาดา อำพนกิจวิวัฒน์ นักวิจัย ทีดีอาร์ไอ กล่าวเสริมว่า หากมีการผสานระหว่างระบบลงทะเบียนกลางและกฎเกณฑ์จากท้องถิ่น จะช่วยคุ้มครองทั้งเจ้าของห้องพักและผู้อยู่อาศัย พร้อมเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมจัดการปัญหา เช่น เสียงรบกวน ความปลอดภัย และการใช้สาธารณูปโภคร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังสามารถเรียนรู้จากโมเดลต่างประเทศ เช่น รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียที่กำหนดให้เจ้าของห้องพักต้องลงทะเบียนก่อนปล่อยเช่า และอินโดนีเซียที่ใช้เกณฑ์ความเสี่ยงในการกำกับดูแลอย่างเหมาะสมกับขนาดและลักษณะของที่พัก
นายเขมภัทรยังระบุอีกว่า หากไทยสามารถออกกฎหมายที่เหมาะสมได้ จะช่วยให้เกิดการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรม กระตุ้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการเช่า สร้างงานใหม่ และคุ้มครองสิทธิของผู้พักอาศัยและชุมชนได้อย่างยั่งยืน
“อาจถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องจริงจังกับประเด็นนี้ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายใต้หลักธรรมาภิบาลและความยั่งยืน” นายเขมภัทรกล่าวทิ้งท้าย