"คุชแมน" ชี้ “แผ่นดินไหว”ทุบตลาดคอนโด Q1 /68 เปิดโครงการลด 45% คาดจ่อ เลื่อนลงทุนพุ่ง

24 เม.ย. 2568 | 02:47 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2568 | 02:54 น.

" คุชแมน" ชี้ “แผ่นดินไหว”ทุบตลาดคอนโด Q1 /68 เปิดโครงการลด 45% 5,000 ยูนิต คาดจ่อ เลื่อนลงทุนโครงการออกไป ไตรมาส2 ไตรมาส3 หลังเปิดลงทะเบียนไตรมาสแรก

 

ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซามีผลมาจากหนี้ครัวเรือนตึงตัว สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อ ซํ้าร้ายยังถูกซํ้าเติม ด้วยเหตุแผ่นดินไหว โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม

ตลาดคอนโด

รวมถึงนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกาประเมินว่าอาจนำมาซึ่งกำลังซื้อที่หดตัวลงทั้งไทยและต่างชาติ  ขณะที่ผู้ประกอบการต่างระมัดระวัง การเปิดตัวโครงการมาก่อนหน้านี้ รวมถึงการปรับตัวรับมือกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว 

ฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพมหานคร ณ ไตรมาสที่ 1 2568 ประมาณ 5,000 ยูนิต ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ประมาณ 45% แต่ยังมากกว่าหลายๆ ไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วงไตรมาสที่ 1 ของหลายๆ ปีที่ผ่านมาจะเป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการชะลอการเปิดขายโครงการใหม่เสมอ เพราะเร่งเปิดขายไปในช่วงก่อนหน้านี้ และรอดูสถานการณ์ต่างๆ

รวมไปถึงรอดูมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่อาจจะออกในปีนั้นๆ ด้วย เพราะช่วง  2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับปัญหาหลายอย่างและต่อเนื่องมาโดยตลอดอาจจะมีเพียงไตรมาสที่ 1 2565 เท่านั้นที่มีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่มากกว่าไตรมาสก่อนหน้านั้น

เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายดีขึ้นแล้ว โครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการเปิดขายบางส่วนตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี2567ที่ผ่านมา และมาเปิดขายจริงจังในไตรมาส 1 2568

รวมไปถึงหลายโครงการมีการเปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจในไตรมาส 1 2568 แล้วอาจจะเปิดขายในไตรมาส 2 หรือ 3 ก็เป็นไปได้ เพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงปลายเดือนมีนาคมมีผลต่อความเชื่อมั่นในโครงการคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะโครงการที่เป็นอาคารสูง

ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครช่วงไตรมาสที่ 1 2568 ประสบปัญหาและปัจจัยลบหลายอย่าง ปัจจัยลบเดิมๆ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการซื้อขาย เช่น การขอสินเชื่อธนาคารที่ทำได้ยากมากๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ช่วงปี 2567-2568 ดูเหมือนปัญหาเรื่องนี้จะมากขึ้น

โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยที่มีราคาขายตํ่ากว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิต ผู้ประกอบการหลายรายพูดในทิศทางเดียวกันว่าอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยตํ่ากว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิตมีมากถึง 60-70%

แน่นอนว่าการที่การโอนกรรมสิทธิ์ของกลุ่มระดับราคาตํ่ากว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิตลดน้อยลงไปมีผลต่อรายได้ของผู้ประกอบการแน่นอน เพราะคอนโดมิเนียมในระดับราคานี้เป็นกลุ่มของระดับราคาคอนโดมิเนียมที่ผู้ประกอบการเปิดขายมากที่สุดมาโดยตลอด ดังนั้น จึงเป็นคอนโดมิเนียมในระดับราคาที่มีการสร้างเสร็จและรอการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดเช่นกันในช่วงที่ผ่านมา

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,090 วันที่ 24 - 26 เมษายน พ.ศ. 2568