รายงานข่าว เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติหลักการ “ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....” ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ซึ่งได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว เป็นการยกระดับการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่ไม่มีคุณภาพตามข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบเอกสารมติครม.พบว่า สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว มีดังนี้
1. เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ พ.ศ. 2560
2. เพื่อกำหนดให้มีการตรวจติดตามคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนแล้วและตรวจติดตามความพร้อมของผู้ประกอบการในการรับงานกับหน่วยงานของรัฐให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องและกำหนดมาตรการการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่ไม่มีคุณภาพตามข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
4. เพื่อให้การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เป็นไปด้วยความถูกต้องและมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเหมาะสมกับกรอบระยะเวลาการตรวจติดตาม
5. เพื่อปรับอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการตรวจติดตามเพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
ตลอดจนยังเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (4 กุมภาพันธ์ 2568) ซึ่งกระทรวงการคลังได้ยกร่างกฎกระทรวงดังกล่าวขึ้น โดยมีสาระสำคัญแบ่งได้เป็น 4 ประเด็น ดังนี้
1. การตรวจติดตามคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนแล้ว โดยการแก้ไขให้กรมบัญชีกลางตรวจติดตามผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนแล้วว่ายังเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม โดยให้มีการตรวจติดตามทุก 3 ปี (เดิม 2 ปี)
2. กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียนผู้ประกอบการเพิ่มเติมและแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับระยะเวลาการยื่นขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ โดยกำหนดเพิ่มเติมให้เพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียนผู้ประกอบการในกรณีผู้ประกอบการที่ถูกปรับลดระดับชั้น 3 ครั้ง ติดต่อกันภายใน 2 ปี เนื่องจากการปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามมาตรฐานของหลักวิชาช่างในงานก่อสร้างหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ได้
เมื่อพันระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียน) และแก้ไขเพิ่มเติมให้กรณีเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับคุณสมบัติที่เป็นเกณฑ์ความต้องการขั้นต่ำ เช่น ฐานะการเงิน ผลงานหรือประสบการณ์ที่ผ่านมา บุคลากร หรือเครื่องมือเครื่องจักร สามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ได้ตลอดเวลา
เมื่อมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด (เดิม สามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ได้เมื่อพ้นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียน) รวมทั้งกรณีผู้ประกอบการที่ยื่นเอกสารหรือหลักฐานเพื่อขอขึ้นทะเบียนหรือการเลื่อนชั้นผู้ประกอบการเท็จ หรือกระทำการทุจริตอื่นใด เพื่อให้มีสิทธิได้รับการขึ้นทะเบียนหรือการเลื่อนชั้นผู้ประกอบการ กำหนดให้สามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ได้ เมื่อพ้นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียน (เดิม ถูกเพิกถอนรายชื่อออกจากทะเบียน ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถมายื่นคำขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการได้อีกเลย)
ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนได้เมื่อครบกำหนดเวลา
3. ปรับอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการตรวจติดตาม โดยการแก้ไขเพิ่มเติมและกำหนดบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมท้ายกฎกระทรวง ดังนี้
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่มีสิทธิเป็นผู้ยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ ซึ่งผู้ขอรับการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้าง จะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามประเภทสาขางานก่อสร้าง ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ
4. กำหนดให้มีการปรับลดระดับชั้นของผู้ประกอบการในกรณีที่เกิดความเสียหายจากการปฏิบัติงาน โดยการกำหนดเป็นบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง (เดิมไม่กำหนดไว้) ซึ่งการปรับลดระดับชั้นของผู้ประกอบการงานก่อสร้าง 2 กรณี ดังนี้