ดัชนีราคาค่าก่อสร้างไตรมาส 3 ขยับ1.5% ราคาเหล็กลดเกือบ10%

15 ต.ค. 2566 | 13:25 น.

ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 3 ปี 2566 เพิ่มขึ้น 1.5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.2 ปัจจัยที่สำคัญมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้าง-งานระบบ เพิ่มขึ้น3.6% ขณะที่เหล็ก-ผลิตภัณฑ์เหล็กราคาลดลง  -9.6% 

  ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 3 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.2 เพิ่มขึ้น0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 และเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  ปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นนั้นมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในหมวดงานสถาปัตยกรรม3.6 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่หมวดงานวิศวกรรมโครงสร้าง ลดลง -2.6% และ หมวดงานระบบสุขาภิบาล -1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  

 

  นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า หมวดราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลงมี 4 รายการ ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สุขภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีตและอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ลดลงมากที่สุดถึงประมาณร้อยละ -9.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

วิชัย วิรัตกพันธ์

โดยเป็นผลมาจากราคาตลาดโลกที่เริ่มมีการปรับตัวลดลงตามอุปสงค์และอุปทานของเหล็ก เนื่องจากมีปริมาณเหล็กส่วนเกินจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่ส่งผลให้อุปสงค์ของเหล็กภายในประเทศจีนลดลง ทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินจากจีนบางส่วนมีการระบายสต๊อกมาที่ประเทศไทยมากขึ้น และราคานํ้ามันดีเซลตํ่าลง ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาวัสดุก่อสร้างหมวดต่างๆ

จึงส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศไทยลดลง ขณะที่ดัชนีราคาหมวดกระเบื้อง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้  และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากสินค้าวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งจาก ราคาวัตถุดิบและค่าดำเนินการที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ส่วนหมวดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาจำแนกต้นทุนของงานก่อสร้างในแต่ละหมวด พบว่า

               1.หมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานวิศวกรรมโครงสร้าง มีอัตราค่าตอบแทนลดลง -2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และลดลง -0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566  โดยมีสัดส่วน 27.6% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานสถาปัตยกรรม มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 3.6 %เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 66.1% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ

งานระบบสุขาภิบาล มีอัตราค่าตอบแทนลดลง -1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 2.7% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร อัตราค่าตอบแทนลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 3.6% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ

  2. หมวดวัสดุก่อสร้าง คิดเป็นสัดส่วน 60.3% ของค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ราคาเพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.5 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566  โดยมีสัดส่วน 27.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง

ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ราคาลดลง-1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และลดลง-0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566  โดยมีสัดส่วน 7.1% ของหมวดวัสดุก่อสร้างเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาลดลง -9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และลดลง -3.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566  โดยมีสัดส่วน 8.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง กระเบื้อง ราคาเพิ่มขึ้น 16.6%

เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566  โดยมีสัดส่วน 5.8% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง  สุขภัณฑ์ ราคาลดลง -8.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และลดลง -8.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566  โดยมีสัดส่วน 3.0 %ของหมวดวัสดุก่อสร้างเป็นต้น