เฟรเซอร์สฯ จ่อเปิดคอนโด-บ้านหรู โชว์ 4 กลุ่มธุรกิจ รายได้ฟื้นดี

10 ก.พ. 2566 | 06:45 น.

" เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ฯ" ประเดิมรายได้ ไตรมาส 1 ปีงบการเงิน 2566 (ต.ค.-ธ.ค.65) 3,706 ล้านบาท พอใจทำกำไรสุทธิ 317 ล้านบาท ปีนี้ จ่อลุยตลาดคอนโด ขยายพอร์ตฯบ้านหรู พร้อมระบุ โรงงาน-คลังสินค้า-อาคารสำนักงาน ฟื้นดี ลูกค้าแน่น

10 ก.พ.2566 - นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1 (ตุลาคม - ธันวาคม 2565) ของปีงบการเงิน 2566 เป็นที่น่าพอใจ ด้วยรายได้รวมสุทธิ 3,706 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน

หากไม่รวมกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบการเงิน 2565 โดยทั้ง 3 ธุรกิจหลักในกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย-อุตสาหกรรม-พาณิชยกรรมได้ผสานความแข็งแกร่งไว้ในแพลตฟอร์มอสังหาฯ ครบวงจรนี้  ส่งเสริมให้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยรักษาการเติบโตได้อย่างมั่นคง
เฟรเซอร์สฯ จ่อเปิดคอนโด-บ้านหรู โชว์ 4 กลุ่มธุรกิจ รายได้ฟื้นดี

สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย สร้างรายได้จากการขายในไตรมาสแรก 2,715 ล้านบาท และมุ่งระบายสินค้าในสต๊อกออกสู่ตลาด โดยในปีงบการเงิน 2566 ที่เหลือ (มกราคม - กันยายน 2566) เตรียมเปิดอีก 9 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านบาท (หรือทั้งหมด 11 โครงการ มูลค่ารวม 17,500 ล้านบาทในปีปฏิทิน 2566)

เน้นเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวทุกระดับราคา สอดรับกับความต้องการของตลาดมากขึ้น รวมถึงขยายพอร์ตโฟลิโอโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ราคา 60-120 ล้านบาทออกสู่ตลาด อีกทั้งมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ราคา 3-5 ล้านบาทในช่วงกลางปี 2566 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและเสริมการรับรู้รายได้รวดเร็ว

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมที่สร้างกระแสรายได้จากค่าเช่าและบริการยังคงเติบโตอย่างเข้มแข็ง สามารถสร้างรายได้ 663 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 560 ล้านบาท

ในส่วนของรายได้เพิ่มเติมนี้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมที่รับรู้รายได้จากการส่งมอบพื้นที่อาคารคลังสินค้าใหม่ในโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ 2 (บางพลี 2) จังหวัดสมุทรปราการ 

โครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ พาร์ค (วังน้อย 2) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงการลงทุนเพิ่มในโครงการโลจิสติกส์เซ็นเตอร์ในประเทศอินโดนีเซียเมื่อไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2565 โดยปัจจุบันกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

เพื่ออุตสาหกรรมสามารถรักษาอัตราการเช่าไว้ได้ในระดับสูงที่ 84% และเล็งเห็นถึงดีมานด์ของลูกค้าแบรนด์ชั้นนำระดับสากลอีกจำนวนมากที่ต้องการใช้คลังสินค้า เพื่อขยายธุรกิจและกระจายความเสี่ยงการลงทุนจากประเทศจีนมายังประเทศไทยมากขึ้น

ด้านกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมสามารถรักษาอัตราการเช่าไว้ได้ในระดับสูงถึง 91% สำหรับพอร์ตโฟลิโออาคารสำนักงานชั้นนำเกรด A พร้อมได้รับอานิสงส์จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นทำให้มีการจับจ่ายนอกบ้าน รวมถึงการคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ จึงเป็นผลบวกต่อธุรกิจรีเทลและธุรกิจโรงแรม ทำให้มีผู้ใช้บริการสูงกว่า 80% และมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการออกหุ้นกู้ด้วยมูลค่าเสนอขายรวม 4,000  ล้านบาทให้แก่     นักลงทุนรายใหญ่และสถาบัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นกู้ของ FPT ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้       ครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป