เจาะ 'แนวโน้มอสังหา' 5 ประเทศเอเชีย ต้นทุนสูง กระทุ้ง บ้าน-คอนโด ไทย ขึ้น 5-10%

09 ธ.ค. 2565 | 08:11 น.

'พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป' เผยแนวโน้มอสังหาฯ ใน 5 ประเทศ แถบเอเชีย ชี้ ราคา บ้าน-คอนโดไทย จ่อเพิ่มขึ้นตามต้นทุนราว 5-10% หวั่น LTV ทำตลาดชะลอตัว ขณะรุกเปิดโซลูชั่นใหม่ PropertyGuru For Business แพลตฟอร์มครบวงจร ผู้ช่วยธุรกิจอสังหาฯ

9 ธ.ค.2565 -  บริษัท พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป จำกัด (บริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เปิดเผยถึง แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ 5 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2566 โดยสรุปใจความสำคัญ ดังนี้ 

เจาะ 'แนวโน้มอสังหา' 5 ประเทศเอเชีย ต้นทุนสูง กระทุ้ง บ้าน-คอนโด ไทย ขึ้น 5-10%
 

แนวโน้มอสังหาฯ สิงคโปร์

  • ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 กิจกรรมการขายในตลาดที่อยู่อาศัยของสิงคโปร์คาดว่าจะมีการชะลอตัวเนื่องจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการควบคุมความร้อนแรงของราคาซึ่งบังคับใช้ในเดือน ธ.ค. 2565 แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัว 
  • สินค้าที่ผู้ซื้ออสังหาฯ ชาวสิงคโปร์ให้ความนิยมคือ แฟลต HDB (Housing and Development Board) ที่มีพื้นที่กว้าง ซึ่งในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาเกิดสถิติการซื้อขายแฟลต HDB ที่สูงถึงล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์เลยทีเดียว
  • ในปี 2566 เป็นที่คาดว่ากลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกในสิงคโปร์จะเบนเข็มไปเป็นการเช่าแทน เนื่องจากไม่มีเงินเก็บมากพอที่จะเริ่มต้นซื้อบ้านได้  
  • อย่างไรก็ดี ในระยะกลาง-ระยะยาว สิงคโปร์จะยังคงเป็นประเทศที่สามารถดึงดูดนักลงทุนและผู้ซื้อต่างชาติเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เกิดรายได้และคนมีพรสวรรค์ใหม่ ๆ ขึ้นในตลาด และแน่นอนว่าจะทำให้เกิดดีมานด์ใหม่ ๆ ในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นได้อีก 
     

แนวโน้มอสังหาฯ มาเลเซีย

  • สิ่งที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในมาเลเซียต้องเผชิญในปี 2566 คืออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นจากดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้น ในการซื้อที่อยู่อาศัย ผู้ซื้อจะใช้เวลาในการตัดสินใจค่อนข้างนานกว่าปกติ แต่อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นดูจะไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อตลาดนักลงทุนเท่าใดนัก เนื่องจากยังมีส่วนได้จากส่วนต่างของกำไรจากการขายหรือการปล่อยเช่าที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง 
  • ส่วนตลาดผู้ขายก็ชะลอตัวไม่แพ้กัน นอกจากต้องดึงดูดผู้ซื้อด้วยการแข่งกันลดราคา เนื่องจากซัพพลายที่มีอยู่ในตลาดนั้นมีปริมาณค่อนข้างมาก
  • แม้เศรษฐกิจของมาเลเซียจะถูกคาดการณ์ว่าจะยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่สำหรับสภาวะตลาดที่อยู่อาศัยนั้นคาดว่ายังคงไปต่อได้ โดยมีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลเตรียมออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือให้ชาวมาเลเซียมีบ้านได้ง่ายขึ้นในปีหน้านั่นเอง

 

แนวโน้มอสังหาฯ อินโดนีเซีย

  • แม้ในปี 2566 เราจะยังคงอยู่ในยุคเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่สำหรับอินโดนีเซียแล้ว การถดถอยของเศรษฐกิจคงไม่หนักเท่าพิษเศรษฐกิจอันเกิดจากโควิด-19 ที่ผ่านมา เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าจำเป็นอย่างน้ำมันปาล์มและถ่านหิน ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดนั่นเอง
  • การขยายตัวของระบบขนส่งในประเทศ อาทิ ถนนและระบบขนส่งสาธารณะอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดทำเลศักยภาพใหม่ ๆ ขึ้นในอินโดนีเซีย และนั่นหมายถึงตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้นของผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในอินโดนีเซีย และราคาจะยังอยู่ในระดับที่จับต้องได้ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือลงทุนในทำเลศักยภาพใหม่เหล่านี้
  • ในช่วงปลายปี 2565 พบว่าราคาและดีมานด์ในที่อยู่อาศัยในอินโดนีเซียมีการปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะบ้านเซ็กเมนต์ 1 พันล้านรูเปียห์อินโดนีเซียขึ้นไป (ราว 2.3 ล้านบาท) มีการค้นหาถึง 56% บนเว็บไซต์ Rumah.com เมื่อเทียบกับอสังหาฯ ราคาอื่น ๆ และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวน่าจะยังคงอยู่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566
  • อีกหนึ่งปัจจัยของการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ในอินโดนีเซียในปี 2566 ขึ้นอยู่กับมาตรการจากทางรัฐบาลในการที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ของประชากรในประเทศนั่นเอง 

 

แนวโน้มอสังหาฯ เวียดนาม

  • ในขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคจะเป็นไปอย่างช้า ๆ แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2566 คาดว่าจะเป็นแบบ K-shape โดยที่ภาคส่วนต่าง ๆ มีอัตราการเติบโตที่แตกต่างกันออกไป
  • โดยอุตสาหกรรมการส่งออกจะเติบโตอย่างคึกคักจากการเข้ามาลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างชาติ ในขณะที่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับคาดว่าจะเกิดการชะลอตัวเช่นเดียวกับตลาดอื่น ๆ
  • อย่างไรก็ดี ด้วยปริมาณซัพพลายที่ค่อนข้างน้อยในตลาดปัจจุบัน ผนวกกับเศรษฐกิจของเวียดนามที่คาดว่าจะโตดีกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค จะส่งผลต่อตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในเรื่องของราคาในตลาดรีเซล หรือบ้านมือสอง
  • อัตราสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นมีแนวโน้มที่ทำให้ผู้ซื้อบ้านในเวียดนามโดยเฉพาะในเซ็กเมนต์ตลาดกลางจะเปลี่ยนไปเช่าแทนการซื้อ  


แนวโน้มอสังหาฯ ไทย

  • ราคาอสังหาฯ โดยเฉพาะโครงการเปิดใหม่ในปี 2566 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 5-10% จากราคาต้นทุนการก่อสร้างทั้งค่าวัสดุ ค่าแรงขั้นต่ำ และราคาที่ดินที่สูงขึ้น แต่ถือเป็นโอกาสของบ้านมือสองหรือบ้านราคาต้นทุนเดิมที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อมากขึ้น
  • บ้านเดี่ยวมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และความคืบหน้าของเส้นทางรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก ซึ่งมักเป็นทำเลของบ้านเดี่ยว จึงส่งผลให้ระดับราคาอสังหาฯ เพิ่มขึ้น
  • ปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้นอีก ส่งผลต่อผู้ที่กู้ซื้อบ้าน หรือกำลังผ่อนบ้านอยู่ ต้องจ่ายค่างวดมากขึ้น หรือใช้ระยะเวลาผ่อนนานขึ้น
  • มาตรการรัฐที่หมดไปในสิ้นปี 2565 เช่น การลดค่าโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% รวมถึงมาตรการผ่อนคลาย LTV ทำให้ผู้ซื้อบ้านหลังที่สองขึ้นไป หรือบ้านหลังแรกที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท ต้องวางเงินดาวน์ 10-30% อาจทำให้ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว

 

พร็อพเพอร์ตี้กูรู เปิดตัว PropertyGuru For Business แพลต์ฟอร์มซื้อ-ขายอสังหาฯ ครบวงจร แบรนด์ใหม่ 

นอกจากนี้ ในงานสัมมนาประจำปี พร็อพเพอร์ตี้กูรู ยังเปิดตัว แบรนด์แพลตฟอร์มอสังหาฯใหม่ สำหรับลูกค้าองค์กร ภายใต้ 'PropertyGuru For Business' 

เจาะ 'แนวโน้มอสังหา' 5 ประเทศเอเชีย ต้นทุนสูง กระทุ้ง บ้าน-คอนโด ไทย ขึ้น 5-10%

โดย นายแฮรี่ วี คริชนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวว่า วันนี้พร็อพเพอร์ตี้กูรูของเรามีอายุครบ 15 ปีพอดี และเราขอใช้โอกาสนี้เปิดตัวแบรนด์ใหม่สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรของเรา นั่นคือ “พร็อพเพอร์ตี้กูรู ฟอร์ บิสิเนส (PropertyGuru For Business)”  ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยให้คำแนะนำลูกค้าในกลุ่มธุรกิจและองค์กร อาทิ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์, เอเจนซี่อสังหาฯ, ธนาคารและสถาบันการเงิน, นักประเมินค่าทรัพย์สิน, นักวางผังเมือง รวมไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการวางนโยบายต่าง ๆ ความใฝ่ฝันของเราคือการสร้างความโปร่งใสให้กับเส้นทางอสังหาฯ และสร้างแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้สำหรับทุกคนที่หาบ้านรวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ด้วยการทุ่มเทสรรพกำลังทั้งข้อมูล เทคโนโลยี และบุคลากรที่เรามี 

 

" เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจให้กับพันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าของเราได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น"  

 

การตัดสินใจต่าง ๆ ในระดับองค์กร หรือในระดับเมือง นับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้คนนับพัน หรืออาจมากกว่าหลายล้านคน พร็อพเพอร์ตี้กูรู ฟอร์ บิสิเนสจะเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ที่ช่วยแนะแนวทางให้กับลูกค้าของเราเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนลง เราเชื่อว่า พร็อพเพอร์ตี้กูรู ฟอร์ บิสิเนส เปิดตัวในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าองค์กรของเรามีข้อมูล, เครื่องมือ และรายละเอียดที่ถูกต้องในการตัดสินใจ เพื่อรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า และเตรียมพร้อมให้บริการลูกค้าของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น”

เจาะ 'แนวโน้มอสังหา' 5 ประเทศเอเชีย ต้นทุนสูง กระทุ้ง บ้าน-คอนโด ไทย ขึ้น 5-10%

บริการและโซลูชั่นหลักของพร็อพเพอร์ตี้กูรู ฟอร์ บิสิเนส ประกอบด้วย ดาต้าเซนส์ (DataSense), แวลูเน็ต (ValueNet), ฟาสต์คีย์ (FastKey), การจัดอีเวนต์ต่าง ๆ รวมไปถึงการบริการด้านกลยุทธ์การตลาด (MaaS)

 

นายแฮรี่ยังเผยอีกด้วยว่า ข้อมูลตลาดเชิงลึกของพร็อพเพอร์ตี้กูรู ฟอร์ บิสิเนส อย่าง “ดาต้าเซนส์” นั้น (ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ แวนเทจพลัส (Vantage+)) จะนำเสนอชุดฟีเจอร์และโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ นำข้อมูลบทวิเคราะห์ไปใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินธุรกิจของตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันดาต้าเซนส์มีให้บริการเฉพาะในประเทศมาเลเซียเท่านั้น โดยมีแผนจะขยายบริการดังกล่าวมายังประเทศสิงคโปร์, เวียดนาม, ไทย และอินโดนีเซียต่อไป
 

การเปิดตัวของพร็อพเพอร์ตี้กูรู ฟอร์ บิสิเนสในครั้งนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังอยู่ในช่วงที่เทคโนโลยีกำลังได้รับความสนใจ และองค์กรต่าง ๆ กำลังพยายามเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ทำให้บริการและโซลูชั่นของเรามีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ 

เจาะ 'แนวโน้มอสังหา' 5 ประเทศเอเชีย ต้นทุนสูง กระทุ้ง บ้าน-คอนโด ไทย ขึ้น 5-10%

ทั้งนี้ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป จำกัด เป็นบริษัทแม่ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย และ thinkofliving.com เว็บไซต์รีวิวอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ)