คอนโดฯเมืองท่องเที่ยวซบ พัทยาเหลือหลายหมื่นยูนิตชี้ต่างชาติชะลอซื้อ

18 ต.ค. 2559 | 09:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

คอลลิเออร์ส เปิดผลสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมตัวเมืองท่องเที่ยว ชี้ชะลอตัวต่อเนื่อง พบ "พัทยา" เหลือขายกว่าหมื่นหน่วย ภูเก็ตหวังโครงการภาครัฐกระตุ้นตลาด ส่วนชะอำ หัวหิน ปราณบุรี ทรงตัว ขณะที่เชียงใหม่ ยอดขายยังอืด เขาใหญ่ ตลาดนิ่ง คาดโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน- เขาใหญ่ ช่วยดึงตลาด

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของคนไทย ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศชะลอตัว สำหรับในจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ ก็ตกอยู่ในสภาวะเช่นเดียวกัน เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักบางกลุ่มมีจำนวนลดลง ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมเท่านั้น ดังนั้นคอนโดมิเนียมในหลายจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นรู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงมีชาวต่างชาติส่วนหนึ่งเป็นผู้ซื้อ ซึ่งภาวะตลาดในปัจจุบันนั้นก็แตกต่างกันไป

โดยในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี กลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียมหลักคือชาวรัสเซีย เมื่อค่าเงินรูเบิลรัสเซียลดค่าลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศรัสเซีย ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวตามไปด้วย เพราะรัสเซียนิยมซื้อเพื่อเป็นที่พักหนีอากาศหนาว โครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อนหน้านี้เปิดขายกันปีละมากกว่า 1 หมื่นหน่วยก็ลดลงเหลือปีละ 8,505 หน่วยในปี 2558 และในปี 2559 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 หน่วยเท่านั้น อีกทั้งคอนโดมิเนียมเหลือขายยังมีอยู่ในตลาดมากกว่า 1 หมื่นหน่วย ทำให้ผู้ประกอบการเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปก่อน ขณะที่อัตราการขายอยู่ที่ประมาณ 77% ในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาคงยังชะลอตัวต่อเนื่อง

สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีโครงการเปิดขายใหม่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา จากที่มีเปิดขายใหม่ 6,200 หน่วยต่อปี (ปี 2555) โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ประมาณ 3,000 หน่วย ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมที่เปิดขายประมาณ 21,500 หน่วยและขายไปได้ประมาณ 80% หน่วย หน่วยเหลือขายลดลงเพราะผู้ประกอบการชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ อีกทั้งขนาดของโครงการก็มีจำนวนหน่วยไม่มาก แต่หลายฝ่ายยังมั่นใจว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมยังมีช่องทางในการขยายตัว เนื่องจากมีปัจจัยใหม่ๆ เข้าสร้างความน่าสนใจและเสริมศักยภาพของภูเก็ต อาทิ โครงการพัฒนาสนามบินภูเก็ตระยะที่ 2, รถไฟฟ้ารางเบาตามแนวเกาะกลางถนนจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต - ห้าแยกฉลอง และโครงการรถไฟขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า เส้นทางสุราษฎร์ธานี - พังงา - ภูเก็ต

ขณะที่ อำเภอชะอำ -หัวหิน -ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดิมเป็นตลาดของชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวยุโรป สแกนดิเนเวียน แต่ช่วง 5 - 6 ปีที่ผ่านมา คนไทยเริ่มเข้ามามากขึ้นทำให้มีการเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้นเช่นกัน โดยปีที่มีการเปิดขายโครงการใหม่สูงสุดคือปี 2554 จำนวนเกือบ 9,000 หน่วย หลังจากนั้นก็มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 หน่วย ไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก สำหรับสินค้าเหลือขายยังมีอยู่ที่กว่าหลายพันหน่วย แม้ว่าอัตราการขายจะสูงถึงประมาณ 70% เพราะมีคอนโดมิเนียมที่เปิดขายก่อนหน้านี้มีมากเกินไป ผู้ประกอบการจึงชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไป ปัจจัยที่คาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้ตลาดมีความน่าสนใจมากขึ้นคือ โครงการรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือเฟอร์รี่ระหว่างพัทยา-ปราณบุรี

ตลาดคอนโดมิเนียมในตัวเมืองเชียงใหม่ก็เช่นเดียวกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ผู้ประกอบการหลายรายชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ ปัจจุบันยังมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายอยู่หลายโครงการรวมแล้วประมาณ 6,700 หน่วย อัตราการขายไปได้ประมาณ 60% ตลาดคอนโดมิเนียมในตัวเมืองเชียงใหม่ อาจจะเป็นที่น่าสนใจแค่เพียงบางพื้นที่เท่านั้น เพราะมีโครงการบ้านจัดสรรที่มีราคาไม่แพงเปิดขายอยู่ในพื้นที่เช่นกัน ทั้งนี้คาดว่า ในปีนี้ก็ยังคงชะลอตัวต่อไป

ส่วนที่เขาใหญ่ ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเรื่องผังเมืองที่มีข่าวว่าจะควบคุมการใช้ประโยชน์ในที่ดินมากขึ้น รวมทั้งเรื่องของการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ผู้ประกอบการหลายรายจึงชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ ยกเลิกโครงการหรือว่าปรับเปลี่ยนไปเป็นโรงแรมแทน โดยในปี 2555 - 2556 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากถึงปีละ 1,200 - 1,400 หน่วย แต่หลังจากนั้นการเปิดขายโครงการใหม่ลดลงเหลือปีละไม่กี่ร้อยหน่วย โดยมีคอนโดมิเนียมเปิดขายสะสมประมาณ 4,500 หน่วย ขายไปได้ประมาณ 68% ในขณะที่โครงการบ้านจัดสรรสะสมอยู่ในเขาใหญ่ประมาณ 2,300 หน่วย ขายไปได้ประมาณ 71% อนาคตคาดว่าตลาดเขาใหญ่จะยังคงชะลอตัวต่อไป แต่อาจจะดีขึ้นถ้าโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน - เขาใหญ่สร้างเสร็จเพราะคนสามารถเดินทางไปเขาใหญ่ได้สะดวกขึ้น แม้ว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงจะผ่านเขาใหญ่แต่ก็คงไม่ได้ช่วยอะไรตลาดที่อยู่อาศัยมากนัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,201 วันที่ 16 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559