เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า จากสถานการณ์ความผันผวนดังกล่าวทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังเติบโตต่ำ มีผู้ประกอบการอีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบและไม่สามารถปรับตัวได้ แม้ยังไม่ปิดกิจการแต่เริ่มมีสัญญาณที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้หรือที่เรียกว่า Zombie Firms และกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จำนวน 7.4% ซึ่ง SMEs ไทยกว่า 3 ล้านราย ในจำนวนนี้มีเพียง 1 ล้านรายเท่านั้นที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ หากสถานการณ์เศรษฐกิจยังคงเป็นเช่นนี้ คาดว่าในสิ้นปีนี้ จำนวน NPLs และ Zombie Firms จะเพิ่มสัดส่วนขึ้นอีก
“ผมอยากให้ผู้ประกอบการพิจารณาในเรื่องของการทำ Business Transformation เพื่อเป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือก หากไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ ธุรกิจจะไปต่อลำบาก จึงอยากแนะนำหลัก 3 ป. ให้ผู้ประกอบการพิจารณาคือ “เปลี่ยน ปรับ ปรุง” การทำงานในองค์กรซึ่งจะเริ่มจากขั้นตอนใดก่อนก็ได้” ดร.รักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจของ SMEs ยังคงมีอุปสรรคสำคัญที่จะต้องก้าวข้าม ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความเข้าใจด้านการทำ Business Transformation และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จะนำมาปรับเปลี่ยนธุรกิจ EXIM BANK ในฐานะธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่ทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันและช่วยเหลือ SMEs ก็มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานในช่วงครึ่งปีหลังให้ “รบอย่างมีกลยุทธ์” เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ต่อสู้กับความท้าทายและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นนี้ โดยดูแลทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่อย่างเต็มที่ และนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาธุรกิจอย่างครบวงจร (Total Solutions) ภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“ท่ามกลางปัจจัยท้าทายต่าง ๆ นโยบายของ EXIM BANK ต่อลูกค้า SMEs คือ การ ‘รับมือ ช่วยเหลือ เติมกำลังใจ’ โดยเจ้าหน้าที่ EXIM BANK ต้องออกเยี่ยมลูกค้า SMEs ทุกราย เพื่อตรวจเช็กสุขภาพธุรกิจและสอบถามความต้องการที่จะให้ EXIM BANK ช่วยเหลือ โดยเฉพาะลูกค้าที่เก่งและดี EXIM BANK พร้อมสนับสนุนการขยายธุรกิจและให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การให้สินเชื่อต้องอยู่บนหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง เงื่อนไขและหลักประกันเหมาะสม มีการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม มุ่งยกระดับประสิทธิภาพของภาคธุรกิจตลอดทั้ง Supply Chain อย่างเป็นมืออาชีพ
ทั้งนี้ EXIM BANK มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ สำหรับลูกค้า SMEs อย่างต่อเนื่องโดยสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า นำผลที่ได้รับจากออกไปเยี่ยมเยียนลูกค้ามาวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้สอดคล้องกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำการตลาดของธนาคารในการเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่และสนับสนุนช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงและสนับสนุน SMEs ไทยที่มีศักยภาพให้ปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างเติบโตและขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในปี 2566” ดร.รักษ์ กล่าว
ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ไม่สามารถควบคุมได้ ธุรกิจที่สามารถอยู่รอดคือ ธุรกิจที่ปรับตัวรับมือกับความผันผวนดังกล่าวได้ EXIM BANK ในฐานะเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่มุ่งดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา (Development Bank) พร้อมปรับกลยุทธ์เชิงรุกให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจอย่างเท่าทัน เพื่อยืนเคียงข้างและช่วยเหลือผู้ประกอบการ ให้ ‘กล้าเปลี่ยน’ และรับมือความท้าทายและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน