เมย์แบงก์ตอกย้ำแนวคิด “Opportunity of Change” เพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม

26 ธ.ค. 2565 | 02:00 น.

บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST ตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจการลงทุนชั้นนำในระดับภูมิภาค โชว์ความแข็งแกร่ง จากสภาพคล่องทั้งภูมิภาคกว่า 5 แสนล้านบาท และกว่า 6 พันล้านบาทในไทย พร้อมเดินหน้าธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาลเคร่งครัด ภายใต้แนวคิด Opportunity of Change มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียมให้คนไทย

หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจการเงินในไทยมากว่า 30 ปี ได้รับการยอมรับ ให้เป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดของภูมิภาค และด้วยความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั้งหมดของ Maybank โดยเฉพาะจาก Maybank Investment Bank ในมาเลเซีย ได้เดินหน้าพัฒนาสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินครบวงจร เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการลงทุนของลูกค้าในไทย 

นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเปลี่ยนองค์กรให้สอดรับกับความต้องการลงทุนของลูกค้าในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “Opportunity of Change” ที่มุ่งเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยมุ่งพัฒนาองค์กรใน 3 ด้าน ได้แก่ 
(1) ภาพลักษณ์ (New Brand)  ได้ทำการ Rebranding เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ไปเมื่อปลาย 2564 ปรับภาพลักษณ์ให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา เน้นสร้างแรงบันดาลใจเชิงบวก แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพที่น่าเชื่อถือ 
(2) การบริหารงานในองค์กร (New Team and Culture) มีการเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้าสู่องค์กรจำนวนมาก ด้วยโครงการสร้างการทำงานที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพ และปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงานสไตล์พื้นที่เปิดเพื่อเอื้ออำนวยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงเน้นความเป็นมืออาชีพสูงสุด 
(3) การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (New Investment Solutions) ที่ตอบโจทย์ตรงใจนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการลงทุนแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าสถาบัน ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความยั่งยืนให้กับลูกค้าได้”  

 

นอกจากเรื่องของการบริการแล้ว หลักทรัพย์ เมย์แบงก์  ยังเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความมั่นคงสูง ด้วยการที่บริษัทแม่เป็นธนาคารเมย์แบงก์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่อันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอันดับ 70 ของโลก และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AA โดย Fitch Ratings (Thailand) และตัวเลขสภาพคล่องของทั้งเครือธนาคารเมย์แบงก์ ที่มีเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิมากกว่า 5.7 แสนล้านบาท และสภาพคล่องในประเทศไทย กว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดไว้ที่ 25 ล้านบาท 

 


เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ยังได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายทางธุรกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 มิติ ได้แก่ การลงทุนที่มั่งคั่งอย่างยั่งยืน ผ่านการให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้องและปลอดภัยทั้งแก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป โดยล่าสุดได้จัดทำแอปพลิเคชั่น “Maybank Invest (MBI)” เครื่องมือใหม่ที่จะเป็นตัวช่วยให้ลูกค้าสามารถหาความรู้และลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ได้ครบจบในแอปพลิเคชั่นเดียว ครอบคลุมทั้ง หุ้น, กองทุน, ตราสารหนี้  และอื่นๆ มากมาย ทั้งในและต่างประเทศ การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด มีการแยกทรัพย์สินของลูกค้าจากทรัพย์สินของบริษัท มีการทำทะเบียนควบคุมความถูกต้องแยกรายลูกค้า และรายงานต่อ ก.ล.ต. อย่างสม่ำเสมอ โดยมีมาตรฐานการทำงานเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเทียบเท่าระดับสากล  การสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืน โดยสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนผ่านการลงทุนในธุรกิจที่ไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมในองค์กร ทั้งนี้ ได้มีการวัดผลด้านความยั่งยืนในระดับโลกภายใต้ธุรกิจในเครือเมย์แบงก์ทั้งหมด

 

“การปรับเปลี่ยนองค์กรของเรากำลังสร้างความสำเร็จไปอีกระดับ จากบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการเป็นโบรกเกอร์ พัฒนาสู่องค์กรที่ปรึกษาทางการเงินชั้นนำที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญระดับโลกกับความรู้ความเข้าใจในความการการลงทุนของลูกค้าคนไทย ทำให้เรามีความพร้อมในการนำเสนอข้อมูลทางเลือก เพิ่มคุณค่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งช่วยให้บริษัทได้พัฒนาธุรกิจมุ่งสู่วิสัยทัศน์ของเราที่จะเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจคนไทย” นายอารภัฏ กล่าวสรุป