รองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคต

29 ก.ย. 2565 | 03:30 น.

การสร้างสรรค์รองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคต “ไร้ขีดจำกัด” คือนิยามของรองเท้านิรภัย BASF

บทความโดย Dr. Minli Zhao รองประธานกรรมการ BASF ฝ่ายวัสดุอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Industry Performance Materials)

รองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคต

โลกอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่ในยุคที่รองเท้าเซฟตี้ หรือ รองเท้านิรภัย (safety shoes) ยังทำด้วยไม้ ในสมัยนั้นการป้องกันขึ้นอยู่กับแค่สิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น รองเท้าไม้ เรื่องของความสบายในการสวมใส่แทบจะไม่ถูกคำนึงถึง โดยมุ่งเน้นเรื่องของความปลอดภัยสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อันตรายเป็นหลัก

 

มาสู่โลกยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีด้านวัสดุที่พัฒนาโดยบีเอเอสเอฟ (BASF) ได้เปิดประตูสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่เพียงช่วยให้ผู้ผลิตรองเท้าสามารถเพิ่มความสบายในการสวมใส่เข้าไปเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสบายในการสวมใส่นั้นกลายเป็นองค์ประกอบด้านความปลอดภัยที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น คุณสมบัติในการซึมซับแรงกระแทกที่เรียกว่า “อินฟิเนอร์จี” (Infinergy®) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน และถือเป็น e-TPU แรกของโลกที่คิดค้นโดย BASF ซึ่งเป็นวัสดุใช้ทำส้นรองเท้าที่ทำให้ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกเมื่อยล้าฝ่าเท้าได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันไม่ให้แรงกระแทกจากใต้ฝ่าเท้าสร้างความตึงหรือเกร็งให้กับข้อต่อของร่างกายอีกด้วย

 

และเมื่อเรามองไปยังประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากความปลอดภัยและความสบายในการสวมใส่ อีกประเด็นสำคัญที่ BASF นำเสนอแก่ผู้ผลิตรองเท้าคือ “ความยั่งยืน” (sustainability) จากการที่เราคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและอนาคตของโลกใบนี้ BASF จึงเป็นหนึ่งในบริษัทรายแรก ๆ ในโลกที่ประกาศชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายด้านความยั่งยืนที่มีมาตั้งแต่ในปี 2537 ซึ่งเริ่มต้นมาหลายทศวรรษแล้ว จึงพร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่รักษ์โลกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

BASF: เราเป็นพันธมิตรธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตรองเท้าเซฟตี้ทั่วโลก

BASF นำเสนอโซลูชันทั้งในระดับพื้นฐานและระดับพรีเมี่ยมให้กับบริษัทผู้ผลิตรองเท้าเซฟตี้ วัสดุ PU ของ BASF ไม่ว่าจะเป็น Elastopan, Elastollan และ Infinergy ล้วนช่วยให้ผู้ผลิตสามารถสร้างสรรค์รองเท้าเซฟตี้ที่สามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ท้าทายต่าง ๆ ได้ ตั้งแต่สถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงสุดไปจนถึงที่อุณหภูมิต่ำสุด

 

ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือพันธกิจของเราที่มีต่อคู่ค้าในอุตสาหกรรมผลิตรองเท้าที่มากกว่าการสร้างสรรค์วัสดุ PU ประสิทธิภาพสูง BASF มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคเกี่ยวกับรองเท้าเซฟตี้ที่มุ่งมั่นทุ่มเท และทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทผู้ผลิตรองเท้าแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อสร้างนวัตกรรม โซลูชันต่าง ๆ ที่พลิกโฉมอุตสาหรรม ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ยังลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับการทำให้พื้นรองเท้าและองค์ประกอบอื่น ๆ ที่พวกเขาร่วมพัฒนานั้นผ่านมาตรฐานการทดสอบ (EN) อันเป็นมาตรฐานสากล

 

จึงไม่น่าแปลกใจที่แบรนด์รองเท้าเซฟตี้ (รองเท้านิรภัย) ชั้นนำทั่วทั้งยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ มอบความไว้วางใจในความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ BASF และใช้วัสดุ PU ของบริษัท

การสร้างสรรค์รองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคต: “ไร้ขีดจำกัด” คือนิยามของรองเท้านิรภัย BASF

ในการสร้างสรรค์รองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคตนั้น BASF ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้กับบรรดาบริษัทผู้ผลิต ให้พวกเขาเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด BASF ได้ร่วมกับไอ-เจนเนอเรเตอร์ (i-generator) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพของสหรัฐฯ ในการปฏิวัติรูปแบบของรองเท้าเซฟตี้ โดยมีการผนวกรวมนวัตกรรมวัสดุล่าสุดของ BASF เข้ากับแนวคิดที่ไร้ขอบเขต ผลลัพธ์ที่ได้คือ “ลิมิตเลส” (Limitless) รองเท้าเซฟตี้แนวคิดใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนและไม่มีใครเหมือน

รองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคต

มาทำความรู้จักเทคโนโลยีวัสดุของเรา

BASF มีวัสดุ PU ที่หลากหลายและครอบคลุม เต็มไปด้วยคุณสมบัติต่าง ๆ ที่จะทำให้รองเท้าเซฟตี้มีประสิทธิภาพการใช้งานและความปลอดภัยสูงสุด 

 

Elastopan

เป็นวัสดุโพลียูรีเธนโฟมของ BASF ที่มีการนำมาใช้ในการผลิตรองเท้าอย่างกว้างขวางในทุกประเภท วัสดุดังกล่าวสามารถนำมาใช้งานได้อย่างหลากหลาย เช่น ใช้เป็นแผ่นรองรับฝ่าเท้า (ที่อยู่ด้านในรองเท้า) ใช้เป็นส่วนรองรับแรงกระแทกช่วงกลางรองเท้า และพื้นรองเท้า เป็นต้น วัสดุดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งกับเครื่องจักรทั้งแบบขึ้นรูปและแบบฉีด ซึ่งให้อิสระในการออกแบบแก่นักออกแบบรองเท้า

 

และที่สำคัญ Elastopan นั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นวัสดุที่ทนทานดีเยี่ยมต่อสารกัดกร่อน ปฏิกริยาไฮโดรไลซิสที่เกิดจากน้ำ จุลินทรีย์ น้ำมัน ปิโตรเลียม และไฟฟ้าสถิต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาในการออกแบบรองเท้าเซฟตี้ นอกจากนี้ วัสดุดังกล่าวยังมีความทนทาน และกันลื่นได้ดี

 

จุดที่โดดเด่นที่สุดอันเป็นคุณสมบัติของวัสดุในกลุ่ม Elastopan คือสามารถใช้งานได้ดีท่ามกลางสภาพอากาศที่ท้าทาย ยกตัวอย่างเช่น Elastopan® Extreme Frost เป็นวัสดุที่ใช้ทำพื้นรองเท้า (พื้นและส้นรองเท้า) ที่แข็งแรงและยังสามารถคงความยืดหยุ่นแม้ในอุณหภูมิ -45 องศาเซลเซียส ขณะที่ Elastopan® Winter Boots มีคุณสมบัติพิเศษที่ทั้งเบาและเป็นฉนวนป้องกันอุณหภูมิ ทั้งยังสามารถคงความยืดหยุ่นแม้ในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้สวมใส่ยังรู้สึกสบายและคล่องตัวแม้ในสภาพอากาศหนาวจัด

 

การทนทานต่อปฏิกิริยาไฮโดรไลซิส (hydrolysis resistance) คืออะไร? ปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสเกิดขึ้นเมื่อน้ำทำให้เกิดการแตกตัวทางเคมีของสาร PU โพลีเมอร์ ทำให้วัสดุเกิดการร่วนสลาย ดังนั้น เทคโนโลยีต้านทานปฏิกริยาไฮโดรไลซิสของ BASF จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของรองเท้า ทำให้รองเท้ามีความทนทานโดยยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูง

 

เทคโนโลยีต้านทานปฏิกริยาไฮโดรไลซิสของบีเอเอสเอฟทำให้รองเท้าเซฟตี้มีคุณสมบัติ ดังนี้

+ภายนอกมีความแข็งแรงทนทาน มีความเงางาม พร้อมความเรียบร้อยของพื้นผิว

+มีความยืดหยุ่นแม้ในสภาพอากาศหนาวจัดเย็น

+ มีความทนทานในการใช้งานและทนทานต่อการสึกหรอ

รองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคต

Elastollan®

Elastollan® หรือเป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่า เธอร์โมพลาสติก โพลียูรีเธน (thermoplastic polyurethane) มีความโดดเด่นในแง่ความแข็งแรงเป็นเลิศ ทนต่อการสึกหรอและกันลื่นได้ดี นอกจากนี้ ยังมีระดับความแข็ง (hardness) หลายระดับ จึงช่วยให้นักออกแบบรองเท้ามีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ยกตัวอย่าง ระดับอ่อน เหมาะสำหรับดูดซับแรงกระแทก ขณะที่เกรดแข็งระดับกลาง เหมาะสำหรับรับแรงกระแทกที่แรงขึ้นมาอีกระดับ ทั้งยังใช้เป็นส่วนผสมของพื้นรองเท้าได้อีกด้วย ส่วนเกรดแข็ง เหมาะทำเป็นส้นหรือหัวรองเท้า

 

Elastollan® ของ BASF ผลิตด้วยเทคโนโลยี supercritical foam (SCF) ที่ล้ำสมัย ทำให้เกิดวัสดุโฟมที่มีความหนาแน่นในขนาดเล็ก มีความยืดหยุ่น และรองรับแรงกระแทกได้ยอดเยี่ยม วัสดุดังกล่าวยังเป็นวัสดุไม่ติดไฟ และรีไซเคิลได้ 100%

 

BASF ช่วยผู้ผลิตนำรองเท้าเซฟตี้แห่งอนาคตออกสู่ตลาดโลก

BASF สร้างสรรค์วัสดุชั้นเลิศเพื่อการผลิตรองเท้าและพื้นรองเท้าทุกรูปแบบ ทุกประเภท ตั้งแต่รองเท้าเซฟตี้ไปจนถึงรองเท้าวิ่ง และรองเท้าลำลอง ด้วยการนำเสนอวัสดุที่ครอบคลุมและหลากหลายตั้งแต่โพลียูรีเธน ไปจนถึงเธอร์โมพลาสติก โพลียูรีเธน และเธอร์โมพลาสติกที่มีการดัดแปลงตกแต่งทางวิศวกรรมเคมี ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์อย่าง Elastopan® (PU), Elastollan® (TPU) และ Infinergy® (E-TPU) BASF จึงเป็นศูนย์รวมโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจรและไม่เหมือนใคร

 

ไม่เพียงเท่านั้น BASF ยังเป็นศูนย์รวมความเชี่ยวชาญด้านวัสดุและความรู้ความชำนาญอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับห่วงโซ่คุณค่า (value chain) ของอุตสาหกรรมรองเท้าทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิตวัสดุสำหรับการผลิตไปจนถึงการประกอบส้นและพื้นรองเท้า ความรู้ความเชี่ยวชาญเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทผู้ผลิตรองเท้าที่เป็นพันธมิตรของ BASF สามารถสร้างสรรค์งานออกแบบและมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั้งยังสามารถนำผลิตภัณฑ์เหล่านั้นออกสู่ตลาดได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

 

ผู้ผลิตรองเท้าเซฟตี้ที่เป็นพันธมิตรของ BASF สามารถมั่นใจได้ว่า นวัตกรรมที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในระดับสากล ที่มาควบคู่กับความยั่งยืน และรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยอย่างแน่นอน   

 

เกี่ยวกับ BASF ประเทศไทย

BASF เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยเป็นเวลา 50 ปีแล้ว โดยเรามีฐานการผลิต 4 แห่งในไทย นำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าและทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการให้กับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่อุตสาหกรรมการเกษตร การผลิตรถยนต์ เคมีภัณฑ์ การก่อสร้าง สีและสารเคลือบพื้นผิว โภชนาการและสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ไปจนถึงอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง

 

สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ นำเสนอบริการด้านการขาย งานบริการลูกค้า และการสนับสนุนทางเทคนิค ให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศด้วย สำหรับข้อมูลอื่น ๆเพิ่มเติม สามารถเข้าไปติดตามได้จากเว็บไซต์ www.basf.com/th