เจาะมุมมอง 4 สถาบันวิชาการ ผนึกเนชั่น ยกระดับความโปร่งใสเลือกตั้ง 2569

15 ธ.ค. 2568 | 09:18 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2568 | 09:30 น.

นักวิชาการ 4 สถาบันใหญ่ เปิดยุทธศาสตร์หยุด 'ทุนเทา' แทรกแซงการเลือกตั้งปี 2569 บนเวที "Nation Election 2569 “จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ย้ำ สื่อคือสะพานเชื่อมงานวิชาการ "ยาขม" สู่ประชาชน ดึงนักศึกษาเป็นหัวใจสำคัญ ชี้ความเที่ยงตรงของโพลคือหลักประกันการสะท้อนเจตนารมณ์แท้จริงของประเทศ

KEY

POINTS

  • เนชั่น กรุ๊ป ร่วมมือกับ 4 สถาบันวิชาการชั้นนำ เพื่อยกระดับความโปร่งใสและความเที่ยงตรงในการเลือกตั้งปี 2569
  • มีเป้าหมายหลักในการทำโพลที่น่าเชื่อถือเพื่อสะท้อนเจตจำนงของประชาชน และเฝ้าระวังการแทรกแซงจาก "ทุนเทา" ที่อาจบิดเบือนผลการเลือกตั้ง
  • สถาบันการศึกษาจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงองค์ความรู้สู่สาธารณะ ปลูกฝังการต่อต้านทุจริต และสร้างการมีส่วนร่วมผ่านเครือข่ายนักศึกษาทั่วประเทศ

ในการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "Nation Election 2569 “จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง 2569 โดยเนชั่น กรุ๊ป ได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญด้วยการผนึกกำลังกับสถาบันวิชาการชั้นนำ 4 แห่ง เพื่อยกระดับความเที่ยงตรงและความโปร่งใสในกระบวนการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในช่วงต้นปีหน้า บรรดานักวิชาการต่างตระหนักถึงความจำเป็นในการใช้สื่อเป็นกลไกสำคัญในการต่อสู้กับปัจจัยแทรกแซง และเป็นสะพานเชื่อมโยงองค์ความรู้เชิงลึกไปสู่สาธารณะ

หลักประกันความเที่ยงตรงของโพล: สกัดทุนแทรก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการเนชั่นโพล และอาจารย์ประจำภาควิชาการบริหารและจัดการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนด้านวิชาการในการสำรวจความเห็น โดยมีเป้าหมายให้กระบวนการเลือกตั้งสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง

ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการเนชั่นโพล และอาจารย์ประจำภาควิชาการบริหารและจัดการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

โดยหลักการสำคัญที่หารือผู้บริหารเนชั่นและเน้นย้ำมาโดยตลอดคือ การสำรวจจะต้องมีความเที่ยงตรง ความครอบคลุม และความน่าเชื่อถือ เนื่องจากสื่อเนชั่นมีอายุยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ จึงจำเป็นต้องมีความมั่นคงทางวิชาการรองรับ

อย่างไรก็ตาม ผอ.เนชั่นโพลได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในภาวะที่ไม่ปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดความกลัวว่าจะมีสิ่งที่เข้ามาแทรกแซง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุนที่ไม่พึงปรารถนา ที่อาจทำให้ผลการเลือกตั้งบิดเบือนไปจากเจตนารมณ์ของประชาชน ด้วยเหตุนี้ การทำงานร่วมกันกับภาคีเครือข่ายและเนชั่นทีวีจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความกระจ่างแจ้ง โปร่งใส และทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ใกล้เคียงกับคำว่า "Free and Fair" ให้มากที่สุด ดร.เชษฐาย้ำว่า ประเทศไทยไม่สามารถเดิมพันกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งที่ไม่ถูกต้องได้

แปลง "ยาขม" วิชาการ สู่ "Solution" ของสังคม

ด้าน ร้อยเอก ดร. จารุพล เรืองสุวรรณ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของงานวิชาการ ซึ่งมักเป็นเหมือน "ยาขบ" ที่อาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกน่าเบื่อ ดังนั้น การอาศัยเครือข่ายสื่ออย่างเนชั่นเข้ามาช่วยนำ "solution ดี ๆ" ไปกระจายสู่สังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การนำงานวิชาการที่เป็นเหมือน "ยาขม" ออกสู่สาธารณะโดยอาศัยสื่อเครือข่ายนี้ จึงเปรียบเสมือนการเคลือบเม็ดยาที่มีประโยชน์ด้วยรสชาติที่น่าสนใจ เพื่อให้ประชาชนสามารถรับไปใช้ในการพัฒนาสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สถาบันพระปกเกล้ามีภารกิจหลัก 3 ประการในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่จะร่วมงานกับเนชั่น:

ร้อยเอก ดร. จารุพล เรืองสุวรรณ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

  • การจัดทำโพลอย่างเป็นทางการ ที่รวบรวมนักวิชาการจากหลายสาขา เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อพรรคการเมืองในการออกแบบนโยบาย และสะท้อนความรู้สึกของประชาชนในปัจจุบัน
  • การใช้ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคประชาชน ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ให้เข้ามาทำหน้าที่เป็น "กระบอกเสียง" ที่สำคัญในการช่วยดูแล ตรวจสอบ และให้ความร่วมมือในการจัดการเลือกตั้ง
  • บทบาทของนักศึกษาในหลักสูตร ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยด้านการประชาสัมพันธ์และผู้กระจายความรู้ไปสู่ประชาชนที่อยู่ใกล้ตัว

ร.อ. ดร. จารุพล กล่าวถึงสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างยิ่งคือเรื่องของ "ทุนเทา" ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะทุนเหล่านี้สามารถนำไปสู่การ "เสกสรรพทรัพย์" ได้ง่าย และอาจมีอิทธิพลต่อทั้งพรรคการเมืองและประชาชน เป้าหมายหลักของการทำงานทั้งหมดนี้คือการทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่าง "โปร่งใสและเป็นอิสระ"

ปลูกฝังการต่อต้านทุจริตผ่านนักศึกษา

ขณะที่ ศ.ดร.อรรถกฤต ปัจฉิมนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย เน้นย้ำบทบาทของนักศึกษาว่าเป็นหัวใจสำคัญในการต่อต้านทุจริต สถาบันฯ เชื่อว่านักศึกษาเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยสื่อสารข้อมูลไปยังครอบครัวในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยการเมืองที่ดีจะนำไปสู่ งบประมาณที่ดี และมีคุณค่าทางประชาธิปไตย ความท้าทายคือการทำให้งานวิชาการจำนวนมากเกี่ยวกับการเลือกตั้งออกไปสู่สายตาประชาชนและทำให้ประชาชนเข้าใจการเมืองไทย

ศ.ดร.อรรถกฤต ปัจฉิมนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย

ศ.ดร.อรรถกฤตจึงย้ำความจำเป็นในการสื่อสารให้ง่ายและเข้าใจง่าย เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า การเลือกตั้งที่เกิดการทุจริตจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่แย่และเสียหาย และควรเริ่มต้นแก้ไขสถานการณ์นี้จากการ ปลูกฝังเด็ก ๆ ผ่านการศึกษา เป็นอันดับแรก

"ตลาดวิชา" สู่สะพานเชื่อมโยงข้อมูล

ส่วนทางด้าน รศ.ดร.ณัฐพงศ์ บุญเหลือ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของบทบาทสื่อในการเลือกตั้ง โดยชี้ว่า สื่อเป็นหัวใจสำคัญในการให้ความรู้และให้ข้อมูลกับประชาชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็น "ตลาดวิชา" และมีเครือข่ายนักศึกษาจำนวนมาก มีความพร้อมในการทำงานร่วมกับสื่ออย่างเต็มที่ ด้วยศูนย์บริการมากถึง 23 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยสามารถนำไปใช้ในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนได้ รศ.ดร.ณัฐพงศ์ระบุว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะทำหน้าที่เป็น "สะพาน" ในการเชื่อมโยงข้อมูลจากงานวิชาการไปสู่สาธารณะผ่านสื่อ ซึ่งรวมถึงการจัดสัมมนาและเสวนาวิชาการด้วย

รศ.ดร.ณัฐพงศ์ บุญเหลือ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสี่สถาบันวิชาการและเครือข่ายเนชั่นกรุ๊ป จึงเป็นหลักประกันสำคัญที่มุ่งมั่นให้การเลือกตั้งต้นปีหน้ายังคงเป็น การบริสุทธิ์ และเป็นการสะท้อนเสียงและเจตนารมณ์ของประชาชนในการเข้าหาอย่างแท้จริง