สวนดุสิตโพลชี้คนไทยพร้อมเลือกตั้ง ห่วงเกิดขัดแย้ง-การเมืองซ้ำรอยเดิม

09 พ.ย. 2568 | 04:06 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2568 | 04:06 น.

สวนดุสิตโพลชี้คนไทยมีความพร้อมเลือกตั้งใหญ่ ระบุห่วงเกิดความขัดแย้งและการเมืองซ้ำรอยเดิม ชี้พรคคประชาชนพร้อมมากสุด ตามาด้วยภูมิใจไทย

KEY

POINTS

  • สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจว่าคนไทยส่วนใหญ่พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง แต่ยังกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งและการเมืองซ้ำรอยเดิม
  • ความกังวลส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์การเลือกตั้งปี 2566 ที่พรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้ประชาชนต้องการเห็นกติกาที่ยุติธรรมและเคารพเสียงส่วนใหญ่
  • ผลสำรวจชี้ว่าพรรคที่ประชาชนมองว่ามีความพร้อมสำหรับศึกเลือกตั้งมากที่สุดคือ พรรคประชาชน รองลงมาคือพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง จากประชาชนกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พ.ย.ที่ผ่านมา 

โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ซึ่งมองว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นอาจจะเกิดความขัดแย้งหรือการเมืองซ้ำรอยเดิม ทั้งนี้ต้องการเห็นพรรคการเมืองเตรียมทีมงานมืออาชีพพร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้ง โดยพรรคการเมืองที่มองว่ามีความพร้อมรับศึกเลือกตั้งมากที่สุด คือ พรรคประชาชน รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทยพรรคการเมือง

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น แต่ยังมีเงาความไม่ไว้วางใจต่อการเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยกังวลว่าจะเกิดสถานการณ์ซ้ำรอยเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมาจึงอยากเห็นกติกาและระบบเลือกตั้งที่ยุติธรรมและเคารพเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง 

ทั้งนี้พรรคการเมืองควรจัดทัพเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้งและพิสูจน์ให้ได้ว่าพร้อมจริง ไม่ใช่แค่คำพูด

สวนดุสิตโพลชี้คนไทยพร้อมเลือกตั้ง ห่วงเกิดขัดแย้ง-การเมืองซ้ำรอยเดิม

นางสาวศิริมา บุญมาเลิศ อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความพร้อมที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในต้นปี 2569 แต่ที่ตัวเลขยังไม่สูงมากนักเนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้การเมืองเกิดการพลิกผันอย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2566 ที่พรรคประชาชนได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้และมีการสลับขั้วเปลี่ยนข้างกันเกิดขึ้น

โดยอ้างถึงการปลดล็อคทางการเมือง มาในครั้งนี้แม้จะมีการทำบันทึกข้อตกลง(Memorandum of Agreement : MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนว่าจะผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภาภายใน 4 เดือน และนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล จะให้ไทม์ไลน์คร่าว ๆ ไว้ว่าประมาณสิ้นเดือนมกราคม 2569 จะยุบสภาแล้วก็ตาม แต่พรรคภูมิใจไทยก็มีเบื้องหลังหลายคดีที่ต้องสะสาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮั้ว สว. และเขากระโดง รวมทั้งท่าทีของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อนหน้านี้

และการพยายามสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ตามวลีของพรรคคือ “พูดแล้วทำ” พร้อมกับการเดินเกมเตรียมความพร้อมเลือกตั้งกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคกล้าธรรม การดึงเกมยุบสภาและการมีดีลลับทางการเมืองอาจเกิดขึ้น จนทำให้เกิดการพลิกผันทางการเมืองอย่างไม่คาดคิดอีกครั้งก็เป็นได้