กระแสอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ โดยเฉพาะ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่อาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลและช่องว่างทางกฎหมายในการหลอกลวงประชาชนจำนวนมาก
ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ออกมาเตือนแรงถึงกลุ่มคนไทยที่ถูกชักชวนให้ “ข้ามแดน” ไปร่วมทำงานกับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน หรือรับจ้างเปิดบัญชีม้า ว่าการกระทำดังกล่าวไม่เพียงผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเข้าข่าย “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกรณีที่มีคนไทยบางส่วนเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศ
ทั้งการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้เป็น “บัญชีม้า” หรือการเดินทางข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้านเพื่อ “สแกนหน้า” ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมโอนเงินจากการกระทำผิด
พฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นการร่วมมือกับขบวนการอาชญากรรมในรูปแบบที่อันตรายและผิดกฎหมายร้ายแรง โดยตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2568 มาตรา 9 ผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารเพื่อให้ผู้อื่นใช้กระทำผิด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่หากการกระทำนั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ข้ามประเทศ ผู้กระทำจะเข้าข่ายความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” ตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 25
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 80,000 บาท ถึง 300,000 บาท ซึ่งถือเป็นโทษอาญาร้ายแรงที่อาจทำให้ผู้กระทำต้องสูญเสียอิสรภาพไปตลอดชีวิต
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ยกตัวอย่างกรณีเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีคำพิพากษาในคดีบัญชีม้า หมายเลขดำที่ อ319/2568 และหมายเลขแดงที่ อ1230/2568 ลงโทษจำคุกเจ้าของบัญชีม้า 41 ปี 258 เดือน และผู้เป็นธุระจัดหาหรือ “ผู้ดูแลคอกม้า” 119 ปี 234 เดือน
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มงวดของกระบวนการยุติธรรมไทยในการจัดการกับอาชญากรรมประเภทนี้อย่างจริงจัง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเน้นย้ำว่า การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารแม้เพียงครั้งเดียว หรือส่งข้อมูลส่วนตัวให้ผู้อื่นนำไปใช้ในการกระทำผิด ก็อาจกลายเป็น “ผู้ร่วมกระบวนการ” ที่ถูกดำเนินคดีได้เช่นกัน
เพราะบัญชีเหล่านี้มักถูกใช้เป็นช่องทางรับ–โอนเงินจากเหยื่อที่ถูกหลอกให้ลงทุน หรือจากการปลอมแปลงธุรกรรมทางออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในระบบเศรษฐกิจและสังคม
ตำรวจจึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการชักชวน “ไปทำงานต่างประเทศ” ที่เสนอรายได้สูงผิดปกติ หรือการขอใช้บัญชีเพื่อรับเงินแทนผู้อื่น หากพบเห็นผู้มีพฤติกรรมชักชวนหรือจัดหาคนไปเปิดบัญชีม้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ทันทีที่ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191, 1599 หรือ 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง