KEY
POINTS
ผลการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง จะออกมาอย่างไร หลังจากได้เปิดหีบแล้วตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองในฐานะ "สมรภูมิการเมืองระดับชาติ" และ "สนามสอบกลางเทอม" ที่จะวัดพลังระหว่างสองพรรคใหญ่ ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคเพื่อไทย (พท.)
พื้นที่เลือกตั้งซ่อมประกอบด้วย 4 อำเภอหลัก ได้แก่
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงดำกัน 2 คน
การต่อสู้ครั้งนี้ถือเป็นการวัดพลังอย่างชัดเจนระหว่าง "การเมืองติดพื้นที่" ของภูมิใจไทย กับ "กระแสพรรคส่วนกลาง" ของเพื่อไทย
ฝ่ายพรรคภูมิใจไทยใช้กลยุทธ์ "การเมืองติดพื้นที่" อย่างเข้มข้น โดยส่ง น.ส.วิสุดา ซึ่งเป็นบุตรสาวของนาย ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีต สส.คนดังของพื้นที่ ลงสนามในนาม "ทายาททางการเมือง"
นายศักดิ์ดาได้แสดงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้รับชัยชนะ โดยเชื่อว่าคะแนนของลูกสาวจะมากกว่าที่ตนเคยได้แน่นอน ความมั่นใจนี้มาจากผลงานที่ตนได้ดูแลแก้ปัญหาให้ประชาชนตลอด 2 ปีที่เป็นผู้แทนฯ
ทั้งเรื่อง น้ำ ถนน และปัญหาพืชผลทางการเกษตร นายศักดิ์ดาเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 70-80 เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยดูแลประชาชนและเกษตรกรได้ดี และประชาชน "ไม่เอาคนแปลกหน้าที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้" แต่จะเลือกคนที่อยู่กับพวกเขา
พรรคเพื่อไทยส่ง พล.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 ลงชิงชัย โดยอาศัยกลยุทธ์ "พลังส่วนกลาง" พล.อ.ชินวัฒน์ ลงพื้นที่พร้อมภาพคู่กับแกนนำระดับชาติ เช่น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายภูมิธรรม เวชยชัย เพื่อส่งสัญญาณว่าผู้สมัครคนนี้คือ "ตัวแทนของรัฐบาล" ที่จะนำงบประมาณและนโยบายระดับชาติลงสู่พื้นที่จริง
อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยต้องเผชิญกับปัจจัยที่สั่นสะเทือนจากภายใน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ สส. "เลือดไหลออก" ซึ่งนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ได้ออกมาเย้ยว่า สส. ที่เหลืออยู่เชื่อว่ากำลังอึดอัด และจำนวนที่ย้ายออกไปแล้วอาจยังไม่ถึงครึ่ง นายศักดิ์ดาโจมตีนโยบายของเพื่อไทยว่า "นโยบายกับการกระทำที่ต่างกัน ก็ถือเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์แล้ว"
แม้ทีมเพื่อไทยจะตกเป็นรอง แต่ก็หวังพลิกกลับมาชนะได้ด้วยฐานเสียงของกลุ่ม "พลังกาญจน์" และพลังคน "เสื้อแดง" ในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจาและเลาขวัญ
ผลการเลือกตั้งซ่อมในวันนี้ (19 ตุลาคม 2568) ไม่ได้เป็นเพียงการหา สส. เพียงหนึ่งที่นั่ง แต่จะกลายเป็น "สัญญาณสำคัญต่อการเมืองไทย"
หาก ภูมิใจไทย คว้าชัย จะเป็นการยืนยันความแข็งแกร่งของ "การเมืองติดพื้นที่" ที่สามารถเอาชนะกระแสพรรคส่วนกลางได้
หาก เพื่อไทย กลับมาคว้าชัย จะเป็นการยืนยันว่า แบรนด์พรรคยังคงแข็งแรง พอที่จะยึดฐานเสียงไว้ได้ และอาจช่วยยับยั้งกระแสการ "ย้ายขั้ว" ที่กำลังเกิดขึ้น
กกต. ได้เปิดสายด่วน 1444 (หรือ 14444) ให้บริการข้อมูลและตอบข้อสงสัยแก่ประชาชนเป็นกรณีพิเศษในวันนี้จนถึงเวลา 20.00 น. เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
โดยเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีชื่อ
นับเสร็จแล้ว 77 หน่วย จากทั้งหมด 254 หน่วย
หมายเลข 1 น.ส.วิสุดา ยังคงนำอยู่ ได้ไปแล้ว 14,876 คะแนน ขณะที่ พล.อ.ชินวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย ได้ 8,544 คะแนน
พท.แพ้เลือกตั้งซ่อม