เลือดไหลกลับ นิพิฏฐ์-อรอนงค์ สมัครสมาชิก ปชป. หนุน อภิสิทธิ์ ผู้นำ

03 ต.ค. 2568 | 08:11 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2568 | 08:29 น.

“นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ”สมัครสมาชิก ปชป. ประกาศหนุน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”นั่งหัวหน้าพรรค ขณะที่ “อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์” อดีตส.ส.กทม. กลับบ้านเก่า โพสต์ดีใจดังๆ ได้คืนรัง

KEY

POINTS

  • นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกครั้ง
  • การกลับมาครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อสนับสนุนและใช้สิทธิ์เลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้กลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
  • การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณการรวมตัวของสมาชิกเก่า เพื่อฟื้นฟูพรรค หากนายอภิสิทธิ์ ได้กลับมาเป็นผู้นำ

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้วในวันนี้ เพื่อใช้สิทธิเลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคในการประชุมใหญ่ 

โดยถือเป็นการประกาศท่าทีทางการเมืองที่ชัดเจน หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยยืนยันว่า จะไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคอีกจนกว่า นายอภิสิทธิ์ จะกลับมานั่งหัวหน้าพรรค

ในโพสต์ดังกล่าว นายนิพิฏฐ์ ยังทบทวนคำพูดของตนเมื่อ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ว่า หาก อภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ตนก็พร้อมจะสมัครสมาชิกเพื่อช่วยฟื้นฟูพรรค ตอบแทนบุญคุณ แต่หาก อภิสิทธิ์ ไม่กลับมา ก็จะขอปลีกวิเวกไปบำเพ็ญพรตอยู่แถวเทือกเขาบรรทัด จังหวัดพัทลุง และยืนยันว่า ไม่ประสงค์จะรับตำแหน่งใด ๆ ในพรรคอีก

ขณะเดียวกันยังมีอีกหนึ่งอดีต สส.ที่กลับมาบ้านเก่าเช่นกัน คือ นางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีต สส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ลาออกจากสมาชิกพรรคไปเมื่อ ปลายปี 2566 หลังการลาออกของ นายอภิสิทธิ์ เพียง 2 วัน 

โดยล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพยืนถือใบสมัครสมาชิกพรรค พร้อมข้อความว่า “อยากตะโกนดังๆ ดีใจโว๊ยยย! ได้กลับบ้านแล้ว”

                                                 เลือดไหลกลับ นิพิฏฐ์-อรอนงค์ สมัครสมาชิก ปชป. หนุน อภิสิทธิ์ ผู้นำ

การกลับมาของทั้ง นายนิพิฏฐ์ และ นางสาวอรอนงค์ จึงถูกมองว่าเป็น “สัญญาณทางการเมือง” ที่สะท้อนการฟื้นแรงสนับสนุนภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะหาก นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจคัมแบ็กในตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็มีโอกาสสร้างแรงดึงดูดสมาชิกเก่าและอดีตแกนนำให้หวนคืนพรรคมากยิ่งขึ้น

การประชุมใหญ่พรรค ปชป. วันที่ 18 ตุลาคมนี้ จึงไม่เพียงเป็นการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารชุดใหม่ แต่ยังเป็นบททดสอบสำคัญว่า พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศ จะสามารถสร้างพลังใหม่จากเลือดเก่าที่หวนกลับมารวมตัวกันได้มากน้อยเพียงใด