นายกฯ ปัดตอบ ปม “ทักษิณ” ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ยกคณะลงสุรินทร์

03 ต.ค. 2568 | 04:25 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2568 | 04:29 น.

นายกฯ อนุทิน ปัดตอบปม “ทักษิณ” ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ยกคณะรัฐมนตรี ทั้ง บิ๊กเล็ก ศุภจี ไชยชนก ลงพื้นที่สุรินทร์ ติดตามปัญหาสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา

วันนี้ (3 ตุลาคม 2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม, พลเอก อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์, นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่จังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้เมื่อนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นขอพระราชทานอภัยโท ซึ่งนายกฯ ตอบเพียงสั้น ๆ ว่ายังไม่ทราบเรื่อง แลเมื่อถามย้ำว่าทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค. ได้ตีกลับเรื่องไปที่กระทรวงยุติธรรม นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถาม บอกเพียงว่าขอรีบไปขึ้นเครื่องก่อน ตอนนี้ดีเลย์แล้ว

สำหรับภารกิจนายกฯ วันนี้ เมื่อไปถึง จ.สุรินทร์ แล้ว จะรับฟังบรรยายเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ที่กองกำลังสุรนารี จากนั้นตรวจติดตามการเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และพบปะประชาชน หัวหน้าส่วน นายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล และกำนันในพื้นที่ ณ โดมโรงเรียนพนมดงรักพิทยา จังหวัดสุรินทร์

ส่วนวันที่ 4 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรี จะพบปะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อรับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชน พร้อมมอบนโยบายแนวทางการเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ณ ห้องประชุมเทศบาลตลาดนิคมปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ 

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางจากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ กลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ 

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนหน้านี้ถึงการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ ว่า การเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ในครั้งนี้ เป็นการตรวจติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ 

รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั่วประเทศว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยเน้นการทำงานร่วมระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครอง เพื่อให้การดำเนินการเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยเร่งสร้างความมั่นคงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อให้ชายแดนไทยกลับคืนสู่ความสงบและมั่นคงโดยเร็ว