KEY
POINTS
ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกโรงตอบโต้กรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายพาดพิงว่าตนเองมีความสัมพันธ์กับ นายเบน สมิธ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าแก๊งสแกมเมอร์
ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันอย่างดุดันว่า จะฟ้องร้องดำเนินคดีแน่นอน และเวลานี้มีคดีฟ้องร้องที่จังหวัดพะเยารออยู่แล้วกว่า 270 คดี ซึ่งรวมถึงคดีกับนักการเมืองด้วย
ร.อ. ธรรมนัสกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ข้อมูลที่นำมาใช้อภิปรายนั้นมาจาก "ข่าวที่มาจากการทะเลาะระหว่างกลุ่มพลังงานด้วยกันเอง" และตั้งคำถามกลับว่า "ไปรับงานใครมาหรือไม่" การนำภาพตนเองกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเบน สมิธ ขณะรับประทานอาหาร หรือภาพทำบุญไปเผยแพร่นั้น "เป็นการนำเรื่องทำความดีมาลงเป็นตุเป็นตะ"
สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องมีรายได้จากธุรกิจสีเทา ร.อ. ธรรมนัสปฏิเสธทันควัน โดยยืนยันว่า มีอาชีพชัดเจน เสียภาษีถูกต้องทุกบาททุกสตางค์ สำแดงได้หมด พร้อมเตือนว่าอย่าพูดอีก เพราะจะไม่ฟ้องแค่คดีอาญา แต่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วย โดยระบุว่าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบก็จะฟ้องในหลักพันล้านเช่นกัน ก่อนทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำดุดันว่า "ปากกล้าขาสั่น อย่ามาเล่นกับผม"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงการเดินหน้าฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ร.อ. ธรรมนัสยืนยันว่า "ทำอยู่แล้ว" และเผยว่าได้ฟ้องร้องทุกคนที่ให้ความเห็นในสภาฯ และคอมเมนต์ที่ทำให้ตนเองเสียหายไปแล้วกว่าร้อยคดี
สำหรับคำถามที่ว่าอะไรทำให้ประชาชนเข้าใจว่าตนเองเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ร.อ. ธรรมนัสอุทานอย่างไม่พอใจว่า "สแกมเมอร์จะบ้าหรือไง คนอย่างผมไปยุ่งกับสแกมเมอร์" และอ้างว่าตนเองอยู่เบื้องหลังการประสานตำรวจไซเบอร์เพื่อจับสแกมเมอร์ พร้อมกล่าวโทษผู้กล่าวหาว่า "ไม่รู้จริงก็พูดกันไปเรื่อย เป็นเพราะคุณรับงานใครมา"
เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์กับบุคคลที่ถูกพาดพิง ร.อ. ธรรมนัสถามกลับว่า "คุณรู้หรือยังเขาไปทำอะไรผิด" และเตือนสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวผิดๆ ว่า "คุณเอาข่าวมั่วมาขยายความ เดี๋ยวจะเดือดร้อน เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ"
พร้อมกันนี้ ร.อ. ธรรมนัสประกาศว่า พร้อมเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่เตรียมเชิญตนเองเข้าไปให้ข้อมูล โดยเตือนสำนักข่าวที่นำเสนอผิดๆ ว่า "คุณเตรียมตัวก็แล้วกัน...แล้วคุณจะกลับหลังหันไม่ทัน"
ในช่วงท้าย ร.อ. ธรรมนัสย้ำว่าไม่ได้โกรธ แต่เมื่อ "กล้าสู้กับผม คุณก็ต้องพร้อมไปกินข้าวเย็นที่พะเยา พร้อมไปขึ้นศาลพะเยา อย่ามาขอโทษ และขอให้ผมถอนฟ้อง ไม่เอานะ" พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่เสียศักดิ์ศรีอาชีพ เพราะ "ไม่เคยคุมซ่อง คุมบาร์ ตนเองค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลมาก่อนผิดตรงไหน" และกล่าวปิดท้ายว่าที่เสียงดังเพราะต้องการอธิบายว่าตนเองผ่านมาเยอะแล้ว และผู้ที่นำเรื่องไม่จริงมาพูดต้อง "พร้อมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น"