KEY
POINTS
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ตุลาคม 2568) ทีมสื่อสารของพรรคไทยก้าวใหม่ ได้ออกหนังสือเชิญเปิดตัวพรคคไทยก้าวใหม่อย่างเป็นทางการ ในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568
โดยหนังสือเชิญ ระบุช่วงหนึ่งว่า “ถึงเวลาประเทศไทยก้าวใหม่” ขอเชิญร่วมงานแถลงการณ์วิสัยทัศน์พรรคไทยก้าวใหม่อย่างเป็นทางการ" ภายใต้การนำของ ศาสตราจารย์ ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
เพื่อก้าวสู่การเมือง ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้ ความสามารถ ความเป็นมืออาชีพ และพลังของคนไทยทุกคน เพื่อสร้าง อนาคตที่มั่นคง ยั่งยืน และเป็นธรรมสำหรับคนไทย
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตใหม่ไปด้วยกัน วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 12.00 น. ณ ทรูดิจิทัล พาร์ค (ฝั่งตะวันตก) ห้องแกรนด์ฮอลล์ (ฮอลล์ 2,3) ชั้น 3
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือที่รู้จักในนาม ดร.เอ้ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตอธิการบดี สจล. หลังจากประกาศลาออกจากพรรคเก่าแก่อย่างเป็นทางการท่ามกลางกระแส "เลือดไหลไม่หยุด" ในพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเปิดตัวเดินหน้าก่อตั้ง "พรรคไทยก้าวใหม่"
โดยชูอุดมการณ์หลักคือการปฏิรูปประเทศผ่านนโยบาย "การศึกษานำการพัฒนา" ดร.เอ้ ยืนยันว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องนำนโยบายเข้าสู้ และพร้อมดึงบุคลากรระดับ "ปูชนียบุคคลด้านการศึกษา" เข้าร่วมทีม
การลาออกของ ดร.สุชัชวีร์ เป็นข่าวใหญ่ในแวดวงการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาเคยเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คนสำคัญที่เคยทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาอยู่ใน “สปอตไลต์การเมือง”
ดร.เอ้ ได้เปิดใจถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ โดยยืนยันว่าการลาออกไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวกับบุคคลในพรรค และจบกันด้วยดี แต่แรงจูงใจที่แท้จริงคือความต้องการที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างเต็มที่
"ประชาธิปัตย์เป็นโรงเรียนที่ดี แต่วันนี้ผมอยากลงมือเปลี่ยนประเทศจริงๆ"
ดร.เอ้ ชี้ว่าสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้มีวิกฤตหลายด้าน ทั้งการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคง ซึ่ง "รอไม่ได้จริงๆ" และปัญหาทั้งหมดมีต้นตอมาจากโครงสร้างการพัฒนาคนและโครงสร้างเศรษฐกิจที่บิดเบี้ยว
พรรคไทยก้าวใหม่ซึ่งก่อตั้งขึ้นจากการเปลี่ยนชื่อและโครงสร้างของพรรคการเมืองเดิม ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่เน้นการใช้ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพในการแก้ปัญหาระดับประเทศ
แกนหลักของอุดมการณ์คือ “การศึกษานำการพัฒนา” ดร.เอ้ ระบุว่า หากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน จุดเริ่มต้นคือการพัฒนาคนและการสร้างการศึกษา
พลเมืองชั้น 1 ของโลก: ดร.เอ้ ตั้งเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างประเทศไทยสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และให้คนไทยเป็น "พลเมืองชั้น 1 ของโลก" โดยการปฏิรูปการศึกษาคือ "ธนูดอกแรก" ที่จะนำการเมืองเพื่อสร้างประเทศ
เครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่: นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้าง "เครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ด้วย AI" โดย ดร.เอ้ ชี้ว่าไทยไม่สามารถพึ่งพาเพียงภาคการท่องเที่ยวได้ และต้องมองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขั้นสูง เพื่อให้ไทยเป็นต้นน้ำของสินค้ามูลค่าสูง
โมเดลการหาเสียงแบบไร้เงินทุน: ดร.เอ้ ยังได้ท้าทายขนบธรรมเนียมทางการเมืองแบบเก่า ด้วยการลั่นว่าพรรค "ไร้เงินทุน" แต่พร้อมที่จะนำนโยบายเข้าแข่งขัน เพื่อท้าทายความคิดที่ว่า "เงินไม่มากาไม่เป็น"