KEY
POINTS
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้หย่อนบัตรเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ในวันนี้ (28 ก.ย. 68) หลังจากเลื่อนมาจากเดิมเพราะความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ศึกครั้งนี้ถูกจับตาไม่เพียงเพราะเป็น สนามทายาททางการเมือง หากแต่ยังเป็นเดิมพันของ 2 พรรคใหญ่ พรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย ที่ต่าง “แพ้ไม่ได้” เพราะผลการเลือกตั้งจะส่งผลโดยตรงต่อ สมดุลอำนาจในสภา รวมถึงความชอบธรรมของรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีอยู่ในมือของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
บ้านใหญ่ปะทะบ้านใหญ่
ค่ายแดง : พรรคเพื่อไทย ส่ง “ภูริกา สมหมาย” หรือ “กุ้ง” ลูกสาวของ อมรเทพ สมหมาย อดีต สส.เจ้าของพื้นที่ ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ลงสมัครในหมายเลข 1 เธอใช้แคมเปญ “ลูกสาวคนศรีสะเกษ รับไม้ต่อแทนพ่อ” พร้อมคำมั่นทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อผลักดันการยุบสภา
ค่ายน้ำเงิน : พรรคภูมิใจไทย ส่ง “จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล” หรือ “อีฟ” หมายเลข 2 บุตรสาวของ ธีระ ไตรสรณกุล อดีต สส.ศรีสะเกษ บ้านใหญ่สายการเมืองที่สืบทอดอิทธิพลมายาวนาน
ทั้ง 2 ตระกูลต่างเป็น “บ้านใหญ่” ที่มีฐานการเมืองมั่นคงสมหมาย คุมธุรกิจโรงแรม-ห้างทองในพื้นที่ ส่วน ไตรสรณกุล กุมขุมกำลังท้องถิ่นผ่าน อบจ.ศรีสะเกษ ซึ่งมี วิชิต ไตรสรณกุล นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ต่อเนื่องหลายสมัย
“เพื่อไทย” มีทุนเดิมจากกระแส “คนศรีสะเกษไม่เอางูเห่า” ช่วงเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 ที่ “อมรเทพ” เคยชนะภูมิใจไทย ด้วยคะแนนกว่า 7,000 คะแนน แต่ปัจจุบันหลุดจากรัฐบาล และกลายเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว
“ภูมิใจไทย” กลไกท้องถิ่นเข้มแข็ง แม้ถูกวิจารณ์ว่าพรรคไร้กระแส ต้องพึ่งพาเครือข่ายบ้านใหญ่เป็นหลัก แต่การได้สวมหมวกรัฐบาลย่อมช่วยเพิ่มน้ำหนักให้ผู้สมัครในพื้นที่
เดิมพันที่มากกว่าหนึ่งเก้าอี้ สส.
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายต่อทุกฝ่าย
หาก “เพื่อไทย” ชนะ จะเป็นการรักษาฐานที่มั่น เพิ่มแรงใจให้ฝ่ายค้าน ทั้งตอกย้ำว่า พรรคยังคงมีพื้นที่แข็งแรง แม้เสียอำนาจรัฐไปแล้ว
แต่หาก “ภูมิใจไทย” ชนะ จะกลายเป็น “ชัยชนะเชิงสัญลักษณ์” ของรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่สามารถเจาะพื้นที่เดิมของเพื่อไทยได้สำเร็จ และจะถูกนำไปขยายผลทางการเมืองสู่การเลือกตั้งใหญ่กลางปี 2569
ที่ผ่านมา “กุ้ง ภูริกา” ใช้กลยุทธ์เรียกคะแนนสงสาร-ความผูกพันในฐานะลูกสาวผู้แทนที่เพิ่งเสียชีวิต พร้อมเดินสายย้ำว่า เพื่อไทยต้องกลับมาเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ “การเมืองบิดเบี้ยว”
ส่วน “อีฟ จินณ์ตวรรณ” เปิดแคมเปญ “ทันยุค ทันใจ เข้าใจชาวบ้าน” ขึ้นเวทีพร้อมแกนนำพรรค และเน้นประเด็น ความมั่นคงชายแดน โต้กลับการบริหารผิดพลาดของรัฐบาลเพื่อไทยชุดก่อน
ผลเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 จึงไม่ใช่เพียงการชี้ชะตาเก้าอี้เดียว แต่คือ บททดสอบสำคัญของทั้ง 2 พรรค
“เพื่อไทย”จะสามารถรักษาฐานเสียงเดิมไว้ได้
หรือ “ภูมิใจไทย”จะโค่นแชมป์เก่า
ทุกคะแนนเสียงที่หย่อนลงหีบในวันนี้ จะสะท้อนถึงทิศทางการเมืองระดับชาติ ก่อนเข้าสู่โหมดการยุบสภาและเลือกตั้งใหญ่ปี 2569
หากไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น...ค่ำวันนี้รู้ผลการเลือกตั้งแน่ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ใครจะได้เฮ! มารอลุ้นกัน...