โปรไฟล์ 6 รองนายกฯ 'ครม.อนุทิน' หน้าเก่า-หน้าใหม่ ไม่ธรรมดา

19 ก.ย. 2568 | 11:00 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ย. 2568 | 11:02 น.

เปิด โปรไฟล์ 6 รองนายกรัฐมนตรี ประจำ 'ครม.อนุทิน' หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งล่าสุดในรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล ใครเป็นใคร หน้าเก่า-หน้าใหม่ กับประวัติที่ไม่ธรรมดา

ภายหลัง ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล หรือ "ครม.อนุทิน1" เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน จำนวน 36 คน โดยในจำนวนนี้มีรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่ง "รองนายกรัฐมนตรี" ด้วยกัน 6 คน ประกอบด้วย

  1. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม
  2. นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี
  3. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี
  4. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง
  5. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์
  6. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

สำหรับตำแหน่งรองนายกฯ ถือเป็นตำแหน่งใหญ่ที่สำคัญกับการบริการแผ่นดิน เพราะจะกำกับดูแลหน่วยงาน พื้นที่ และการยังเป็นประธานในคณะกรรมการระดับขาติที่สำคัญต่าง ๆ ฐานเศรษฐกิจ ขอพาไปทำความรู้จักกับโปรไฟล์ 6 รองนายกฯ ประจำรัฐบาลอนุทิน ซึ่งจะเข้ามาขับเคลื่อนประเทศในห้วงเวลา 4 เดือนตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม

 

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม

 

‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ นับเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร โดยผลงานชิ้นโบว์แดงที่สร้างชื่อเสียงคือ การขับเคลื่อนนโยบายด้านการท่องเที่ยวด้วยการเปิดประเทศในช่วงการฟื้นจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งนับเป็นช่วงวิกฤตของการท่องเที่ยวของไทยอย่างแท้จริงให้กับมาเป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้อยู่รอดต่อไปได้

สำหรับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2498 พื้นเพเป็นคนจังหวัดสงขลา โดยสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนแสงทองวิทยา จังหวัดสงขลา และระดับปริญญาตรีและปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 

เขาเริ่มต้นการทำงานด้วยการสืบทอดธุรกิจครอบครัว ในธุรกิจนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ มาจำหน่ายให้กลุ่มเรือประมงในเขตน่านน้ำอันดามัน ต่อมาในปี 2535 ได้เริ่มธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และจดทะเบียนธุรกิจของตนในตลาดหลักทรัพย์ในชื่อ พีทีจี เอ็นเนอยี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2538 โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด เป็น บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ

ส่วนเส้นทางการเมือง เขาได้เข้ามานั่งในตำแหน่ง นายพิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งเป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา สังกัดพรรคภูมิใจไทย หลังผ่านการการเลือกตั้ง ในปี 2562 ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  ต่อมาในปี 2564 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเมื่อสิ้นสุดรัฐบาลพ.อ.ประยุทธ์ ในปี 2566 ก็ยังได้นั่งเป็นรมว.แรงงาน ต่อในช่วงรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลแพรทองธาร ก่อนจะกลับมานั่งรองนายกฯ และรมว.คมนาคม ในรัฐบาลปัจจุบัน

โสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ

 

โสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ

 

นับเป็นการหวนกลับมานั่งในตำแหน่งสำคัญของฝ่ายบริหารอีกครั้ง ในรอบ 17 ปี หลังจาก ‘โสภณ ซารัมย์’ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกฯ ประจำรัฐบาลอนุทิน1 เพราก่อนหน้านี้ โสภณ ซารัมย์ เคยนั่งเป็น รมว.คมนาคม กระทรวงเบอร์หนึ่ง มาในสมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2551 ก่อนที่จะหายหน้าไปเล่นการเมืองในสภา

ประวัติส่วนตัว โสภณ ซารัมย์ เกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2502 ที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ สำเร็จการศึกษาครุศาสตรบัณฑิต สาขาการประถมศึกษาจากวิทยาลัยครูบุรีรัมย์ ซึ่งที่ผ่านมาเขามักเรียกตัวเองว่าเป็น 'ครูบ้านนอก'

ส่วนเส้นทางการเมือง โสภณ ซารัมย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปี 2544 สังกัดพรรคชาติไทย และการเลือกตั้งใน ปี 2548 ก็ได้รับการเลือกตั้งในนามพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้ง ปี 2550 

ต่อมาเมื่อยุบพรรคพลังประชาชน เขาได้ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ในปี 2553 และได้นั่งเป็นรมช.คมนาคม ก่อนที่จะเลื่อนขึ้นมาเป็น รมว.คมนาคม ในที่สุดจนปัจจุบันเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ คนใหม่ของรัฐบาลอนุทิน

บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ

 

บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ

 

ถือว่าเป็นหนึ่งในโควต้ารัฐมนตรีคนนอก ประจำรัฐบาลอนุทิน สำหรับ 'ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ' ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคนสำคัญ โดยประวัติส่วนตัวเขาเกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2497 ที่จังหวัดสงขลา 

ส่วนด้านการศึกษา จบการศึกษาจากโรงเรียนแสงทองวิทยาในระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ขณะที่ระดับปริญญาตรี จบนิติศาสตรบัณฑิต ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้สอบผ่านเป็นเนติบัณฑิตไทยรุ่นที่ 29 ด้วยคะแนนอันดับที่ 3 ต่อมาได้สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทางกฎหมายมหาชนจากมหาวิทยาลัยปารีส-นองแตร์

ประวัติการทำงาน เริ่มต้นรับราชการในตำแหน่งอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2519 จากนั้นในปี 2531 เขาได้เป็นคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ และปีถัดมาได้เลื่อนเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

ต่อมาในปี 2534 เข้ารับราชการที่ภาควิชากฎหมายปกครองและกฎหมายทั่วไป คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้รับแต่งตั้งเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2538 และในช่วงปี 2542-2546 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ต่อจากนั้นในปี 2546-2549 เขาได้เข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ผลงานทางวิชาการของบวรศักดิ์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราภิชานแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในปี2542 ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขานิติศาสตร์ จากสภาวิจัยแห่งชาติ ปี 2545 ได้รับพระราชทานกิตติบัตรแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์กิตติคุณ คณะนิติศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อีกทั้งในช่วงปี 2545-2548 ได้รับคัดเลือกจากองค์การสหประชาชาติให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิกรรมาธิการบริหารภาครัฐของสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ และภายหลังจากการรัฐประหารในประเทศไทย เมื่อปี 2557 เขาได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปประเทศ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วย ก่อนจะได้รับการทาบทามเข้ามานั่งเป็นรองนายกฯ ในปัจจุบัน

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และรมว.คลัง

 

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และรมว.คลัง

 

คนในแวดวงการเงิน-การคลัง รู้จักกันดีสำหรับชื่อของ 'ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ' รัฐมนตรีป้ายแดง ซึ่งในรัฐบาลอนุทิน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกฯ ควบรมว.คลัง คุมงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล เขาเกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2514 เป็นบุตรชายของอิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ และอดีตรองผู้อํานวยการสำนักงบประมาณ และผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และอดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 

การศึกษา ดร.เอกนิติ จบระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากวชิราวุธวิทยาลัย และมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน (รุ่นที่ 31) ต่อมาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี (เกียรตินิยม) หลักสูตรเศรษฐศาสตร์บัณฑิต ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยทุนการศึกษาจากสมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

ก่อนจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอิลลินอย เออร์แบนา-แชมเปญจน์ และระดับปริญญาเอก หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยบัณฑิตแคลร์มอนต์

เส้นทางการทำงานเริ่มต้นชีวิตการทำงานจากการเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์หลักทรัพย์ที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ ก่อนที่จะเข้ารับข้าราชการเป็นนักวิชาการสรรพากรเขตปทุมวัน ก่อนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศและกลับมาทำงานที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในช่วงเกิด "วิกฤติต้มยำกุ้ง" ซึ่งเขานับเป็นหนึ่งในดาวรุ่งของกระทรวงการคลัง ที่ใช้ประสบการณ์ในการร่วมกู้วิกฤติและพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยครั้งนั้น 

จากนั้นยังดำรงตำแหน่งหลายตำแหน่งในสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เช่น ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค จนถึงรองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ก่อนขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เมื่อปี  2558 และเป็นอธิบดีกรมสรรพากร ในปี  2561 ก่อนจะสลับไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต ในปี 2565 และไปนั่งอธิบดีกรมธนารักษ์ เมื่อปี 2567 ก่อนที่จะได้รับการทาบทามมานั่งเป็นรองนายกฯ และรมว.คลัง ในปัจจุบัน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์

 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์

 

ชื่อของ 'ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า' คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หลังจากเขาเคยเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลลุงตู่ และรัฐบาลเศรษฐา เขาเกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2508 ที่จังหวัดพะเยา สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 (รวมเหล่ารุ่นที่ 2) ปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 36 

ปริญญาโทพุทธศาสนมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พระพุทธศาสนา) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เอฟซีอี ประเทศสหรัฐฯ

เส้นทางการเมืองเขาเคยทำธุรกิจรักษาความปลอดภัยภายใต้ชื่อ บริษัท ธรรมนัส การ์ด และได้เข้ามาสู่การเมือง พรรคไทยรักไทย ช่วยดูยุทธศาสตร์การเลือกตั้งใน กทม. ต่อมาเมื่อ พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ย้ายมาอยู่พรรคพลังประชาชน หลังพลังประชาชนถูกยุบ ก็หวนมาอยู่ พรรคเพื่อไทย

หลังรัฐประหารในปี 2557 ร.อ.ธรรมนัสถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งเรียกมารายงานตัว พร้อมกับ 2 นายพล คือ พล.อ.ทวนทอง อินทรทัต และ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต (เสธ.ไอซ์)

จนเมื่อปี 2561 ร.อ.ธรรมนัส ได้เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือของพรรค และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.จังหวัดพะเยา เขตที่ 1 ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะออกจากพรรค และปัจจุบัน ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ และรมว.เกษตรฯ อีกครั้ง

สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

เป็นอีกหนึ่งรัฐมนตรีเหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่การกลับมาครั้งนี้ได้ตำแหน่งใหญ่เป็นรองนายกฯ สำหรับ 'สุชาติ ชมกลิ่น' เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2517 โดยมีพื้นเพเป็นคนชลบุรี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการ จากมหาวิทยาลัยเกริก ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นนักการเมือง โดยมีตำแหน่งรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ รมว.แรงงาน ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เส้นทางการเข้าสู่วงการการเมืองของ สุชาติ ชมกลิ่น เขาเริ่มต้นจากการเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตอำเภอเมืองชลบุรี ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ครั้งแรกในปี 2554 สังกัดพรรคพลังชล และเป็นส.ส.อีกสมัย ในปี 2562 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก่อนจะเข้ามานั่งเป็น รมว.แรงงานในรัฐบาลลุงตู่

ทั้งนี้ในเดือนมิถุนายน2564 เขาได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ก็ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ก่อนเข้ามาเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ และในปี 2567 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลเศรษฐา ก่อนที่จะมาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ ควบรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรัฐบาลปัจจุบัน