นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือจาก กลุ่มสมาชิกวุฒิสภาในบัญชีรายชื่อสำรอง (กลุ่ม สว.สำรอง) วันนี้ (16 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ณ ที่ทำการพรรคประชาชน อาคารอนาคตใหม่ นำโดย นายธนวัฒ ศรีสุข สว.สำรอง กลุ่ม 13 และเพื่อนสมาชิก
ที่เดินทางมายื่นข้อเรียกร้องให้พรรคประชาชนติดตามตรวจสอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ เพื่อป้องกันการก้าวก่ายและแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมใน คดีฮั้ว สว.
นายธนวัฒ ศรีสุข ตัวแทนกลุ่ม สว.สำรอง ได้กล่าวแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อ คดีฮั้ว สว. ปี 2567 โดยระบุว่าคดีนี้เป็นคดีความมั่นคงและมีองค์ประกอบพิเศษที่กระทบต่อโครงสร้างรัฐและเสถียรภาพของประเทศ เพราะมีการจัดตั้งเครือข่ายเพื่อควบคุมอำนาจนิติบัญญัติและบริหารในทางที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจเข้าข่ายมาตรา 113 และ 114 ประมวลกฎหมายอาญา ฐานกบฏล้มล้างการปกครอง
กลุ่ม สว.สำรอง ได้ชี้ให้เห็นถึงความน่าสงสัยในคดีหลายประการ อาทิ เจ้าหน้าที่ DSI ได้เริ่มกระจายตัวไปสอบปากคำพยานประมาณ 1,200 ปากในจังหวัดต่างๆ แต่กลับถูก "สกัดโดยมือที่มองไม่เห็น" โดยเจ้าหน้าที่ DSI ที่ได้จองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินแล้ว ต้องเดินทางกลับทั้งหมดในวันนี้ (16 ก.ย.) รวมถึงในบางจังหวัดไม่ได้รับความร่วมมือในการให้ปากคำ
นอกจากนี้ คดีนี้ยังมีความล่าช้าในการดำเนินการที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และมีการตั้งคณะกรรมการชุดที่ 27 ขึ้นมาสอบสวน สว. กลุ่มพรรคสีส้ม ซึ่งกลุ่ม สว.สำรองเชื่อว่าอาจเป็นการถ่วงคดีฮั้ว สว. สีน้ำเงินให้ยืดเยื้อออกไป
กลุ่ม สว.สำรองมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา จะเข้ามาก้าวก่ายหรือแทรกแซงคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่ กกต. ส่งสำนวนคดีไปที่ศาลฎีกา ซึ่งอาจกระทบต่อหลักความถูกต้อง โปร่งใส และเที่ยงธรรม ความกังวลยังขยายไปถึง การแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)
"มีการเปิดเผยชื่อว่าที่ รมว.ยุติธรรมคนใหม่ คือ พล.ต.ท. รุพล เนาวรัตน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้กลุ่ม สว.สำรองเกิดความกังวลว่าจะมีการโยกย้ายอธิบดี DSI คนปัจจุบันเพื่อขัดขวางการทำงาน หรือไม่ ทั้งยังอ้างถึงถ้อยแถลงของนายอนุทินก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคดีฮั้ว สว. และเขากระโดง"
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ยืนยันว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจต่อประเด็นต่างๆ และจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำว่า จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดคือการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกระทรวงยุติธรรมและ DSI หากรัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นผู้ที่อยู่ในเครือข่ายใกล้ชิดกับ "ปราสาทสายฟ้า" หรือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ สังคมก็คงไม่เชื่อว่าจะไม่มีการแทรกแซง
นายวิโรจน์ ยืนยันว่า พรรคประชาชนจะติดตาม 4 ประเด็นสำคัญอย่างใกล้ชิด ได้แก่ 1. การแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีความเป็นกลางและเหมาะสม 2. การกดดันข้าราชการใน DSI รวมถึงอธิบดี DSI 3. การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกรมสอบสวนคดีพิเศษ 4. การเข้ามาก้าวก่ายออกระเบียบหรือคำสั่งต่างๆ ภายใน DSI
"ยืนยันว่าได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคให้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างอิสระ โดยไม่คำนึงถึงบุคคลใด หรือเจ้าของปราสาทสายฟ้า พรรคประชาชนพร้อมร่วมมือกับกลุ่ม สว.สำรอง และภาคประชาชน และหากมีหลักฐานที่ชัดเจนชัดแจ้ง ที่โยงไปถึงการฮั้ว สว. และพรรคภูมิใจไทยตามข้อสันนิษฐาน พรรคก็จะไม่ไว้วางใจให้พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลต่อไป และพร้อมดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอย่างเต็มที่"
สส.วิโรจน์ ระบุด้วยว่า แม้จะมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาชนเป็น "นั่งร้าน" ให้รัฐบาล แต่นายวิโรจน์ย้ำว่าพรรคจะยังคงตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลของพรรคใดก็ตาม พรรคประชาชนได้จัดเตรียม สส. ผู้รับผิดชอบด้านการตรวจสอบและท้วงติงรัฐบาลชุดนี้ ไม่ต่ำกว่า 36 คน โดยนายวิโรจน์จะดูแลในส่วนของข้อท้วงติงในสิ่งที่รัฐบาลไม่พึงกระทำในระยะเวลา 4 เดือนนี้ ซึ่งรวมถึงคดีฮั้ว สว. คดีเขากระโดง และเรื่องสัมปทานในทะเลที่อาจเชื่อมโยงกับทุนจากกัมพูชา
นายวิโรจน์ยังเน้นย้ำถึงการใช้กลไกในสภาอย่างเต็มที่เพื่อตรวจสอบ ตั้งแต่การตั้งกระทู้ถามสด การเสนอญัตติด่วน การหาข้อมูลเพิ่มเติมในกรรมาธิการ ไปจนถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ หรือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อคว่ำรัฐบาล หากพฤติกรรมส่อไปในทางที่ไม่เหมาะสมและมีหลักฐานชัดเจน
ท้ายที่สุด นายวิโรจน์กล่าวว่า รัฐบาลเฉพาะกาล 4 เดือนนี้มีหน้าที่ประคับประคองบ้านเมือง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ และ ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ อันจะนำมาซึ่งรัฐบาลที่ชอบธรรมและยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง