“สาโรจน์”ลาออกเลขาฯ ป.ป.ช. กะทันหัน เหตุผลยังเป็นปริศนา

15 ก.ย. 2568 | 09:55 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ย. 2568 | 09:59 น.

“สาโรจน์ พึงรำพรรณ”ลาออกจาก เลขาธิการ ป.ป.ช. กะทันหัน ทั้งที่เหลือวาระอีก 1 ปีเศษ เจ้าตัวยังปิดปากเงียบไม่รับโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตกใจเมื่อทราบข่าว

KEY

POINTS

  • นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. อย่างกะทันหัน
  • สาเหตุของการลาออก ยังไม่เป็นที่เปิดเผย และยังคงเป็นปริศนาต่อสาธารณชน
  • การลาออกเกิดขึ้นก่อนครบวาระ โดย นายสาโรจน์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึง 1 ปี ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่เจ้าหน้าที่

วันนี้ (15 ก.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการกะทันหัน โดยยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของการตัดสินใจครั้งนี้

นายสาโรจน์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และตามวาระจะดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2569 แต่กลับตัดสินใจยุติบทบาทก่อนครบวาระ ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. หลายรายยอมรับว่า ทราบข่าวอย่างกะทันหันและรู้สึกตกใจ ไม่เคยได้รับสัญญาณล่วงหน้า

ที่ผ่านมาในเดือนเมษายน 2568 นายสาโรจน์ ยังได้ยื่นสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ในตำแหน่งด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานตรวจสอบการเงินภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามไปยังนายสาโรจน์ โดยตรง แต่เจ้าตัวยังไม่รับโทรศัพท์หรือให้คำชี้แจงใด ๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ใกล้ชิดระบุเพียงว่า เพิ่งได้รับทราบข่าวการลาออกเช่นกัน

ประวัติ สาโรจน์ พึงรำพรรณ

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เป็นนักกฎหมายและข้าราชการสายยุติธรรมที่ผ่านตำแหน่งสำคัญมาหลายตำแหน่ง

เคยดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนจะย้ายมารับราชการที่สำนักงาน ป.ป.ช.

ได้รับแต่งตั้งเป็น รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ก่อนขยับขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช.

เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567

นายสาโรจน์ถือเป็นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานตรวจสอบการทุจริต และมีชื่อเสียงด้านความรอบรู้ทางกฎหมาย รวมถึงการผลักดันให้หน่วยงานด้านยุติธรรมและองค์กรอิสระทำงานเชื่อมโยงกันมากขึ้น

การลาออกกะทันหันของเลขาธิการ ป.ป.ช. ในครั้งนี้ ยังคงเป็นคำถามใหญ่ในสังคมว่า มีปัจจัยใดอยู่เบื้องหลัง ทั้งในมิติการเมือง การทำงานภายในองค์กร หรือเรื่องส่วนตัว ซึ่งคงต้องรอการชี้แจงจากเจ้าตัวหรือการแถลงอย่างเป็นทางการจากสำนักงาน ป.ป.ช.ต่อไป