เลขาฯ กกต.ชี้ “แพทองธาร” ยังเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ต่อ

12 ก.ย. 2568 | 05:02 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2568 | 05:20 น.

เลขาฯ กกต.ชี้“แพทองธาร”ถูกศาล รธน.ตัดสินจริยธรรมจนพ้นนายกฯ ไม่ทำให้สิ้นสุดตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทันที คดีอื่นต้องรอคำพิพากษาศาล

วันที่ 12 ก.ย. 2568 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นคุณสมบัติของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากกระทำผิดจริยธรรม

นายแสวง ระบุว่า การพ้นจากตำแหน่ง “หัวหน้าพรรค” ไม่ได้เป็นผลโดยตรงจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่ต้องพิจารณาตามเกณฑ์กฎหมายและข้อบังคับพรรค โดยเงื่อนไขที่ทำให้พ้นจากหัวหน้าพรรคมี 2 กรณีคือ

1.ถูกคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคมีมติขับออกจากตำแหน่งหัวหน้า แต่ยังคงสถานะสมาชิกพรรคอยู่

2.พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งกรณีนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาเท่านั้น

“กรณีนี้ แม้สังคมจะรู้สึกว่าลักษณะผิดจริยธรรมร้ายแรง ควรทำให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปด้วย แต่กฎหมายกำหนดไว้ชัดว่า ต้องเป็นคำพิพากษาของศาลฎีกา หรือ เป็นมติของ กก.บห. พรรค กกต.เองไม่สามารถไปก้าวก่ายกิจการภายในพรรคได้” 

นายแสวง ยังชี้ว่า การพิจารณาคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ แม้มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับจริยธรรมที่ใช้เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ไม่ได้หมายความว่า จะส่งผลโดยอัตโนมัติให้สิ้นสมาชิกภาพพรรคการเมือง หรือ พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคในทันที กระบวนการต้องรอการชี้ขาดจากศาลฎีกา หรือการดำเนินการภายในพรรคตามข้อบังคับ

“บางครั้งข้อเท็จจริง หรือ ความรู้สึกของสังคมอาจมองว่าพ้นแน่แล้ว แต่ในทางกฎหมายต้องรอให้กระบวนการครบถ้วน เช่นเดียวกับ ส.ส. ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่ามีลักษณะต้องห้าม แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ จนกว่าศาลฎีกาจะวินิจฉัยชี้ขาด” เลขาฯ กกต. กล่าวย้ำ