มติ GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เปิดด่านจันทบุรี-ตราด กระตุ้น ศก.

10 ก.ย. 2568 | 06:44 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 08:33 น.

GBC ไทย-กัมพูชา มีมติร่วมถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน ตั้งทีมร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ เปิดด่านถาวรจันทบุรี-ตราด ฟื้นฟูความเชื่อมั่น

KEY

POINTS

  • ที่ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา มีมติเห็นชอบให้ถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนภายใน 3 สัปดาห์
  • มอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน โดยเริ่มจากด่านในจังหวัดจันทบุรี และ ตราด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • เห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน และร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) อย่างจริงจัง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 10 กันยายน 2568 ที่ห้องกฤษณะ โรงแรมเซ็นทารา ชานทะเลแอนด์วิลล่า จ.ตราด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา (General Border Committee: GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า การหารือเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งสองฝ่ายยืนยันใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี เพื่อสร้างสันติภาพถาวร แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องติดตาม

ประเด็นสำคัญที่ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน ได้แก่

1.ถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ ภายใน 3 สัปดาห์จะมีการจัดทำแผนร่วม และเคลื่อนย้ายกำลังโดยมีคณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) เข้าร่วมตรวจสอบ

2.การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไทย-กัมพูชาจะตั้งคณะประสานงานร่วมภายใน 1 สัปดาห์ และเริ่มเก็บกู้ทุ่นระเบิดนำร่องตามแนวชายแดนภายใน 1 เดือน

3.การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ (สแกมเมอร์) มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติของทั้งสองฝ่าย ตั้งคณะทำงานร่วมกันภายใน 1 สัปดาห์ โดยฝ่ายไทยได้ส่งข้อมูลพิกัด “สแกมเซนเตอร์” กว่า 60 แห่งให้กัมพูชาดำเนินการเด็ดขาด พร้อมนัดประชุมประสานงานอย่างเป็นทางการวันที่ 16 ก.ย. ที่ จ.สระแก้ว

                                     มติ GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เปิดด่านจันทบุรี-ตราด กระตุ้น ศก.

4.การจัดการพื้นที่ชายแดนกรณีบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เจรจาเพื่อหาทางออก และมอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประสานงานกับผู้ว่าฯบันเตียเมียนเจย หากสำเร็จจะขยายผลใช้ในพื้นที่ปัญหาอื่นๆ

5.การผ่อนปรนการค้าชายแดน ที่ประชุมมอบหมาย RBC ศึกษาความเป็นไปได้เปิดจุดผ่อนปรนการขนส่งสินค้า โดยเริ่มจากด่านถาวร จันทบุรี-ตราด ซึ่งมีความมั่นคงน้อยกว่าพื้นที่อื่น เพื่อลดผลกระทบธุรกิจชายแดน

พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ไทย-กัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่อาจย้ายหนีไปได้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี พร้อมย้ำรัฐบาลไทยโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กำหนดหลักการ “อธิปไตยต้องมาก่อน” แต่ควบคู่ไปกับการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนและการค้าชายแดน

ทั้งนี้ กองทัพได้จัดโซนพื้นที่ตามระดับความตึงเครียด 3 ระดับ คือ

โซนที่ 1 (ตึงเครียดสูง) ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์

โซนที่ 2 (ปานกลาง) ได้แก่ สระแก้ว

โซนที่ 3 (ตึงเครียดต่ำ) ได้แก่ จันทบุรี-ตราด

โดยจะเริ่มมาตรการผ่อนปรนที่โซน 3 ก่อน เพื่อเป็นโมเดลในการคลี่คลายความตึงเครียด

ในการประชุมยังมีการหารือนอกรอบระหว่าง พล.อ.ณัฐพล กับ พล.อ.เตีย เซียฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้ย้ำสารจาก พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ส่งถึง นายอนุทิน แสดงเจตจำนงฟื้นความสัมพันธ์และแก้ปัญหาชายแดนร่วมกัน

พล.อ.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลการประชุมครั้งนี้ ถือว่ากัมพูชา “ตอบรับครั้งแรก” ใน 2 ประเด็นใหญ่ที่ไทยกังวลมายาวนาน คือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และ การปราบปรามสแกมเมอร์ แต่ต้องจับตาความจริงใจของฝ่ายกัมพูชาในการปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปภายใน 30 วัน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ