“ทักษิณ”นอนรือนจำคืนแรกหลับสบาย ทานข้าว ปรับตัวได้ดี

10 ก.ย. 2568 | 06:24 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2568 | 06:38 น.

“ทักษิณ”นอนคุกคลองเปรม คืนแรก ปรับตัวได้ดี หลับสนิท ทานข้าวครบ ด้านแกนนำเพื่อไทยย้ำกำลังใจไม่ตก ยังพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง เชื่อวิกฤตจะยิ่งสร้างความสามัคคีในพรรค

วันที่ 10 กันยายน 2568 หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 1 ปี เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้รับตัวเข้าไปคุมขัง ก่อนย้ายไปเรือนจำกลางคลองเปรมในช่วงเย็น เพื่อแยกประเภทนักโทษตามระเบียบ 

รายงานจากกรมราชทัณฑ์ แจ้งว่า ขณะนี้ นายทักษิณ อยู่ในห้องกักโรคโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน โดยคืนแรก (9 ก.ย.) นายทักษิณสามารถปรับตัวได้ดี หลับสนิท รับประทานอาหารครบ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีการร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ การตรวจร่างกาย และ สุขภาพจิตใจ พบเป็นไปในทิศทางที่ดี

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนยังกำลังใจดี และเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีท้อถอย และยังเดินหน้าทำงานให้กับประชาชนและพร้อมที่จะขับเคลื่อนประเทศต่อไป

เมื่อถามถึงเสถียรภาพภายในพรรคเพื่อไทย ขณะนี้เป็นอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ในพรรคไม่มีปัญหาอะไร สมาชิกยังมีความห่วงใยพรรค และเดินหน้าทำกิจกรรมของพรรคให้เป็นไปตามนโยบาย เพื่อเตรียมเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง 

เมื่อถามย้ำว่า สส.ในพรรคตอนนี้ยังจับมือกันแน่นอยู่ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังมั่นคงอยู่ ย้ำว่า สส.หลายคน เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและยังมีกำลังใจดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าการยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ของนายทักษิณ ครั้งนี้ จะทำให้คะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าดีขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีกลยุทธ์หลายอย่างในการขับเคลื่อนงาน ในฐานะที่เคยเป็นพรรคที่ใหญ่อันดับหนึ่ง มีกลยุทธ์ต่างๆ ที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา 

“โดยสิ่งเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายปัจจัย ขอให้รอดูว่าเวลาที่เหลืออยู่คงจะมีการเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็จะยังนำพรรคเพื่อไทยอยู่ต่อไป” 

ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า แม้นายทักษิณ ต้องโทษจำคุก แต่ยังเป็น “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ของพรรค เชื่อว่าวิกฤตครั้งนี้จะยิ่งทำให้สมาชิกพรรคสามัคคี และสร้างพลังสู้เพื่ออนาคต พร้อมเตือนฝ่ายตรงข้ามที่โจมตีผ่านโลกออนไลน์ ว่าการบิดเบือนสร้างความเกลียดชังจะยิ่งทำให้สังคมไทยบอบช้ำ