“เพื่อไทย”ชักกลับ ถอดถอน“อนุทิน-ณัฐพงษ์”ขอแก้ไขก่อนยื่นใหม่

08 ก.ย. 2568 | 07:49 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ย. 2568 | 07:58 น.

“วันนอร์” เผย “วิสุทธิ์” ขอเบรกคำร้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน “อนุทิน-ณัฐพงษ์” ยันขอแก้ไขรายชื่อ-เนื้อหา ก่อนยื่นใหม่

KEY

POINTS

  • พรรคเพื่อไทยได้ยื่นขอถอนคำร้องที่เคยเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพ สส. ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
  • สาเหตุของการขอถอนคำร้องคืน เพื่อนำกลับไปแก้ไขรายชื่อผู้ยื่นและปรับปรุงรายละเอียดเนื้อหาบางส่วนก่อนจะยื่นใหม่อีกครั้ง
  • ประเด็นในคำร้องเดิมเกี่ยวข้องกับการที่ทั้งสองคนลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOA) เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล
  • ประธานสภาฯ ยืนยันว่า คำร้องยังไม่ได้ถูกส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้พรรคเพื่อไทยสามารถขอรับเรื่องคืนเพื่อแก้ไขได้

ที่รัฐสภา วันที่ 8 กันยายน  2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้าชื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พ้นสมาชิกภาพ สส. จากกรณีทำบันทึกข้อตกลง (MOA) สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่เข้าร่วมรัฐบาล โดยคำร้องดังกล่าวยื่นไว้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา

นายวันมูหะมัดนอร์ เปิดเผยว่า ล่าสุด นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ติดต่อประสานขอรับเรื่องคำร้องคืน เพื่อนำไปแก้ไขรายชื่อผู้ยื่น และรายละเอียดเนื้อหาบางส่วนใหม่ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ร้องที่จะดำเนินการได้ เนื่องจากประธานสภายังไม่ได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

“ผมไม่ทราบว่าจะมารับคืนเมื่อใด อาจเป็นวันที่ 9 หรือ 10 กันยายน แต่ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการเอง” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการตรวจสอบคำร้องที่ยื่นมาเบื้องต้นสามารถส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ประธานสภาฯ ระบุว่า ตนไม่อาจวิเคราะห์เนื้อหาหรือสาระได้ หน้าที่ของสภาคือการตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อและขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ หากครบถ้วนก็ต้องดำเนินการส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณาต่อ ส่วนศาลจะรับหรือไม่ หรือจะวินิจฉัยอย่างไรนั้น เป็นอำนาจของศาลโดยตรง

นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คำร้องเกี่ยวข้องกับการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคการเมืองว่า เป็นประเด็นใหม่ที่เกิดขึ้นในทางการเมืองไทย ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรต้องยึดหลักการเป็นกลาง และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยไม่ก้าวล่วงเนื้อหาหรือเจตนาของผู้ร้อง

“ถ้าผู้ร้องเห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็มีสิทธิ์ยื่นมา แต่ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะพิจารณาและวินิจฉัยต่อไป” ประธานสภาฯ กล่าวย้ำ