วันที่ 4 ก.ย. 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าถึงกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอเลื่อนแจ้งความเอาผิดคดีเขากระโดงออกไป ว่า เขากระโดงไม่สำคัญเท่ากับการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากเปลี่ยนรัฐบาล คดีจะเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม ตอบว่า “ถ้าเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เขากระโดง ก็จะหายไปตลอดเวลา และหายไปตลอดกาล”
ถามว่าแบบนี้จะไม่ได้เขากระโดงคืนเป็นที่ของหลวงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า “ผมทำตามนี้แน่นอน”
ก่อนหน้านั้น พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกมาเปิดเผยว่า ฝ่ายกฎหมาย รฟท. ได้ประสานขอเลื่อนการเข้าแจ้งความออกไปโดยไม่มีกำหนด
“หาก รฟท.ไม่เร่งเข้าแจ้งความ อาจเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหากยังคงเพิกเฉย ดีเอสไอจะทำหนังสือทวงถามอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และหากยังไม่ดำเนินการ ก็พร้อมเรียกสอบผู้บริหาร รฟท. รวมถึงพิจารณาดำเนินคดีในฐานะผู้สนับสนุนการรุกครองที่ดินเขากระโดงต่อไป” พ.ต.ต.ณฐพล ระบุ
วันเดียวกัน นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณีตรวจสอบจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แและ นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
กรณีที่ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เมื่อเดือน ส.ค. 2567 เกี่ยวกับการถือครองมีที่ดิน บริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยตั้งข้อสังเกตว่า ทั้ง 2 คนใช้หรือมีสิทธิใดในการครอบครอง ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะของแผ่นดิน จนถึงขณะนี้การตรวจสอบ ยังไม่มีการส่งหนังสือให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ความคืบหน้าใด ๆ
อีกกรณีคือ การที่ นายอนุทิน และ นายไชยชนก ถูกคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ของ กกต. ดีเอสไอ และ พนักงานอัยการ แจ้งข้อกล่าวหาว่า มีความผิดฐานร่วมกันฮั้ว สว.หรือไม่ และให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาตรวจสอบ เนื่องจากขณะนี้ นายอนุทิน ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ มองว่า สามารถเป็นได้หรือไม่ รวมถึงในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 68) จะเดินทางไปยื่นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้กับประธานสภาผู้แทนราษฎรวินิจฉัย