‘รฟท.’ เลื่อนแจ้งความดีเอสไอ ‘ที่ดินเขากระโดง’ ไม่มีกำหนด

04 ก.ย. 2568 | 06:14 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2568 | 06:17 น.

‘รฟท.’ เลื่อนแจ้งความดีเอสไอ ปมถือครองโฉนด ‘ที่ดินเขากระโดง’ จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่มีกำหนด เร่งส่งหนังสือรฟท.ชี้หากเมิน ส่อละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ลุยดำเนินคดีตามกฎหมาย

KEY

POINTS

  • การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในคดีพิพาทที่ดินเขากระโดง ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
  • ดีเอสไอได้ประสานให้ รฟท. เข้าแจ้งความในฐานะผู้เสียหาย หลังจากสืบสวนพบว่ามีกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการครอบครองที่ดินของรัฐ
  • หาก รฟท. ไม่มาแจ้งความตามที่ร้องขอ อาจเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และดีเอสไออาจพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ ต่อไป

เมื่อวันที่ 4 กันยายน จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ 

อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย เป็นเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 พร้อมให้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวบรวมและตรวจสอบพยานหลักฐาน ประสานเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่บุรีรัมย์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์
 

พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตนในวันนี้ เวลา 14.00 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด 

อย่างไรก็ดีในกรณีนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯเป็นผู้เสียหายจึงประสานรฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย


 

และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป