รมว.พาณิชย์ หวั่นเกมการเมืองฉุดประเทศเสียโอกาส เชื่อไม่กระทบนโยบายเดิม

03 ก.ย. 2568 | 06:26 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ย. 2568 | 06:47 น.

‘จตุพร’ รมว.พาณิชย์ หวั่นเกมการเมืองฉุดประเทศ-ประชาชนเสียโอกาส แต่เชื่อแม้การเมืองเปลี่ยน แต่นโนบายเดิมยังเดินหน้ายันโครงการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่สะดุด

KEY

POINTS

  • รมว.พาณิชย์ย้ำว่าไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร ภารกิจในการทำงานเพื่อประชาชนต้องดำเนินต่อไป
  • ข้าราชการคือหัวใจและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานภาครัฐให้นำไปสู่การปฏิบัติจริง
  • ระบบราชการมีความเข้มแข็งและเป็นมืออาชีพ สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องแม้จะมีความไม่แน่นอนทางการเมือง
  • ความขัดแย้งทางการเมืองทำให้ประเทศและประชาชนเสียโอกาส ดังนั้นบ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อและไม่ควรหยุดนิ่ง

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้จะมีรัฐบาลหรือไม่มีรัฐบาล ที่สำคัญคือยังมีข้าราชการที่ทำงานอยู่และเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนในการทำงานให้กับประชาชน ซึ่งรัฐมนตรีเป็นเพียงคนกำหนดนโยบายเท่านั้น คนที่นำไปปฎิบัติคือข้าราชการ และเชื่อว่าข้าราชการกระทรวงพาณิชย์มีความเป็นมืออาชีพ

“อย่าห่วงว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร เพราะวันนี้งานต้องเดินหน้า ประชาชนยังมีความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ เรื่องการเมืองก็ว่ากันไป แต่หัวใจคือต้องทำงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง  ส่วนโครงการเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1000 บาท ยังคงเดินหน้าต่อเพราะครม. อนุมัติไปแล้วทั้งนาปีและนาปรัง”

เมื่อถามว่าพร้อมในการเลือกตั้งหรือไม่นั้น คนที่เดือนร้อน คือประชาชน หัวใจคือประชาชน ซึ่งมองว่าการเมืองเป็นเรื่องของวัฎจักร เพียงแต่ขอให้เราคำนึงถึงบ้านเมืองเป็นหลัก เพราะถ้าเล่นการเมือง แล้วประชาชนยังคงลำบากอย่าเข้ามาเล่นการเมือง ส่วนตัวเชื่อว่า ระบบราชการยังคงเข้มแข็งเพราะผมมาจากข้าราชการ ดังนั้นการเมืองจะมีหรือไม่มีเชื่อว่างานยังเติมหน้าได้

“ในมุมของการเมืองมองว่า เรายังคงต้องทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที ส่วนจะพร้อมลงเลือกตั้งหรือ ๆไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่เชื่อว่าประชาชนคงต้องการโอกาสใหม่ ผมคิดว่าน่าจะเปิดโอกาสให้กับประชาชนได้มีทางเลือกใหม่”

ส่วนการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยส่วนตัวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็มีความสนิมสนมกัน เพราะเคยทำงานร่วมกันสมัยเป็นเป็นข้าราชการ ดังนั้นอะไรที่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายต้องทำตามกฎหมาย อย่างทำอะไรก็ตามที่ไม่เป็นตามขั้นตอนกฎหมาย ถ้าจะเลือกนายกฯ ก็ต้องเลือก ดังนั้นทุกอย่างต้องเป็นขั้นเป็นตอนตามกฎหมาย

“ผมเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี ผมบอกตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาว่าจะทำงานกี่วีน กี่เดือน กี่ปีก็ต้องทานอย่างเต็มที เราเป็นรัฐมนตรีก็ต้องทำงาน อยู่น้อยอยู่นานก็ต้องทำงาน แต่ไม่ใช่อยู่แล้วไม่ทำงานอย่ามาเป็นรัฐมนตรี”

ทั้งนี้หากมองในมุมของประชาชนคนหนึ่ง มองว่า เป็นเรื่องของการเสียโอกาส ประเทศเสียโอกาส ประชาชนเสียโอกาส แทนที่จะมีโอกาสใหม่ให้กับประชาชนก็ไม่มีโอกาส ดังนั้นบ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อ จะหยุดอยู่กับทีไม่ได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหาย วันนี้ยังทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีอย่างเต็มที่และไม่ได้หนักใจในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง อยู่ที่จิตสำนึกถ้าเราทำงานโดยที่ไม่ได้มองถึงผลประโยชน์ส่วนตัว เราต้องมีโอกาสใหม่ ๆ ให้กับคนไทย