เจาะลึกสถิติ 'ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ' ลงมติคดีการเมืองสำคัญ

28 ส.ค. 2568 | 10:48 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2568 | 12:26 น.

ย้อนรอย 'มติศาลรัฐธรรมนูญ' ในคดีการเมืองสำคัญ พร้อมเปิดสถิติการลงมติของตุลาการ ในคดีการเมืองสำคัญ ทั้งยุบพรรคการเมือง การถอดถอนนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา

"คดีคลิปเสียงฮุน เซน" ถอดถอนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะมีการพิจารณาคดีและอ่านคำวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 29 สิงหาคม 2568

กูรูการเมืองวิเคราะห์กันว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็มีผลกระทบต่อประเทศไทยและผลกระทบต่อการเมืองไทยอย่างลึกซึ้งในหลายมิติ

ฐานเศรษฐกิจ พาย้อนรอยไปดูสถิติการวินิจฉัยของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้มีบทบาทสำคัญในการตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ทั้งการดำรงตำแหน่งและการถอดถอนนายกรัฐมนตรี รวมถึงการยุบพรรคการเมืองในคดีสำคัญในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เช่น คดียุบพรรคอนาคตใหม่ คดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คดียุบพรรคก้าวไกล คดีถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน คดีการดำรงตำแหน่งครบวาระ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงคดีถอดถอนแพทองธาร ชินวัตร ภายใต้มติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในยุคปัจจุบัน ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 (ปัจจุบัน) ที่ประกอบด้วย

  1. นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
  2. นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  3. นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  4. นายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  5. นายจิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  6. นายนภดล เทพพิทักษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  7. นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  8. นายอุดม รัฐอมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  9. นายสุเมธ  รอยกุลเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

 

เจาะลึกสถิติ 'ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ' ลงมติคดีการเมืองสำคัญ

 

เมื่อย้อนสถิติการเมืองในแต่ละคดีเรียงตามไทม์ไลน์ของคดีพบข้อมูลการลงมติในการวินิจฉัยดังนี้

คดีการถือหุ้นวี-ลัคมีเดียของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ในกรณีของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกกล่าวหาว่าผิดรัฐธรรมนูญจากการถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย ซึ่งอาจเป็นการขัดต่อมาตรการห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้งดำรงตำแหน่งทางการเมืองหากมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทในลักษณะที่ผิดกฎหมาย

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 เสียง ว่าธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวและการกระทำของเขาขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 98 และ 101 ส่งผลให้ธนาธรต้องพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

  • เสียงข้างมาก (7 เสียง): วรวิทย์ กังศิเทียม, อุดม สิทธิวิรัชธรรม, บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, ปัญญา อุดชาชน, จิรนิติ หะวานนท์, วิรุฬห์ แสงเทียน, นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
  • เสียงข้างน้อย (2 เสียง): ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์, ชัช ชลวร

 

คดียุบพรรคอนาคตใหม่

การยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการดำเนินการของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพรรคได้รับเงินกู้จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในการระดมทุนให้กับพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 เสียง ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยมติส่วนใหญ่เห็นว่าการให้เงินกู้ในจำนวนที่เกิน 10 ล้านบาทโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะนั้นขัดกับกฎหมายพรรคการเมือง

  • มติศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้ได้รับการสนับสนุนจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ ได้แก่เสียงข้างมาก (7 เสียง) วรวิทย์ กังศิเทียม (ประธานศาลรัฐธรรมนูญขณะนั้น), อุดม สิทธิวิรัชธรรม, บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, ปัญญา อุดชาชน, จิรนิติ หะวานนท์, วิรุฬห์ แสงเทียน, นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
  • เสียงข้างน้อย (2 เสียง): ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์, ชัช ชลวร

 

คดีการดำรงตำแหน่งของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

คดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำรงตำแหน่งของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าเขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องและตัดสินว่า พล.อ. ประยุทธ์ยังไม่ครบวาระ 8 ปี เนื่องจากการนับระยะเวลาต้องเริ่มตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มีผลใช้บังคับ คือ 6 เมษายน 2560

  • เสียงข้างมาก (6 เสียง): วรวิทย์ กังศิเทียม, อุดม สิทธิวิรัชธรรม, บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, ปัญญา อุดชาชน, จิรนิติ หะวานนท์, วิรุฬห์ แสงเทียน
  • เสียงข้างน้อย (3 เสียง): นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์, ชัช ชลวร

 

คดียุบพรรคก้าวไกล

มติของศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ให้ยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากพบว่ามีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)

และมติเป็นเอกฉันท์ ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2567 เป็นระยะเวลา 10 ปี

มติเป็นเอกฉันท์ ห้ามมิให้ผู้เคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่พรรคถูกยุบ

รายชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ลงมติ

มติของศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้ได้รับการลงมติจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด 9 ท่าน (9:0) ได้แก่

1.วรวิทย์ กังศศิเทียม (ประธานศาลรัฐธรรมนูญขณะนั้น) 2.อุดม สิทธิวิรัชธรรม 3.จิรนิติ หะวานนท์ 4.วิรุฬห์ แสงเทียน 5.นภดล เทพพิทักษ์ 6.ปัญญา อุดชาชน 7.บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ 8.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 9.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์

โดยมติทั้งหมดเป็นเอกฉันท์ในการยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

 

คดีถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน

ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยคดีถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 โดยมีมติ 5 ต่อ 4 เสียง ให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติและมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

  • เสียงข้างมาก (5 เสียง): นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์
  • เสียงข้างน้อย (4 เสียง): นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายสุเมธ รอยกุลเจริญ นายอุดม รัฐอมฤต นายนภดล เทพพิทักษ์

 

คดีคลิปเสียงฮุน เซน ถอดถอนแพทองธาร ชินวัตร

ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งได้รับคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่ามีเหตุผลที่จะถอดถอนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตามกรณีที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับคลิปเสียงของเธอที่มีการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องนี้จากประธานวุฒิสภา มีมติ 7 ต่อ 2 รับคำร้องตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย โดยไม่มีการเปิดเผยรายชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ลงมติรับคำร้องในคดีนี้