โผแต่งตั้ง-โยกย้าย จัดทัพบิ๊กสีกากี วางตัว“ผบ.ตร.คนที่ 16”

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปี 2568 กำลังกลายเป็นศึกใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี เพราะไม่เพียงเป็นการขยับเก้าอี้นายพลและตำรวจระดับสูงกว่า 400 ตำแหน่ง แต่ยังเป็นการกำหนดอนาคตของ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” (ผบ.ตร.) คนที่ 16 ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2569 

ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 การแต่งตั้งนายพลตำรวจ ต้องเสร็จสิ้นภายใน 31 ส.ค. ซึ่งขณะนี้กระบวนการเดินหน้าแล้ว โดย 17 ส.ค. 2568 บอร์ดกลั่นกรองได้ตรวจสอบบัญชีรายชื่อ และ 22 ส.ค. ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะทำหน้าที่เคาะบัญชีแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสูงครั้งนี้ครอบคลุม รอง ผบ.ตร. 2 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง, ผบช. 18 ตำแหน่ง, รอง ผบช. 40 ตำแหน่ง,  ผบก. 71 ตำแหน่ง, รอง ผบก. และ ตำแหน่งทั่วไป 251 ตำแหน่ง 

นับรวมแล้ว เกือบ 400 เก้าอี้ ซึ่งหมายถึงการจัดทัพใหม่ทั้งระบบ ตั้งแต่ส่วนกลางจนถึงภูมิภาค

ตัวเต็ง“ผบ.ตร.คนที่ 16”

สำหรับรายชื่อผู้ถูกจับตาที่จะไต่เต้าขึ้นมาเป็น “ผบ.ตร. คนที่ 16” หลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.คนที่ 15 เกษียณอายุราชการในปี 2569 ประกอบด้วย

• พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี (เกษียณ 2571)

• “บิ๊กหวาน” พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร (เกษียณ 2570)

• “บิ๊กราญ” พล.ต.ท.สำราญ นวลมา (เกษียณ 2576)

• “บิ๊กแมน” พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ (เกษียณ 2572)

เก้าอี้ “ผบ.ตร.” คนใหม่ไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งสูงสุดของตำรวจ แต่ยังสะท้อนสมการอำนาจทางการเมือง เพราะรัฐบาลชุดใดก็ตามที่กำหนดตัว ผบ.ตร. ได้สำเร็จ จะมีอิทธิพลต่อทั้งโครงสร้างตำรวจยาวนานหลายปี 

                                            

“รอง ผบ.ตร.”ตัวแปรสำคัญ 

ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. 2 เก้าอี้ใหม่ ถือเป็นก้าวแรกสู่การเป็น ผบ.ตร. ตัวจริงในอนาคต โดยชื่อที่ถูกเสนอได้แก่ 

• พล.ต.ท.สำราญ นวลมา (ผช.ผบ.ตร. / เกษียณ 2576)

• พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ (รองจเรตำรวจฯ / เกษียณ 2572)

• พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร (จเรตำรวจฯ / เกษียณ 2570)

                               

“ผู้ช่วย ผบ.ตร.”ดาวรุ่งสายตรง 

7 เก้าอี้ผู้ช่วย ผบ.ตร. ครอบคลุมทั้งสายปราบปราม สืบสวน และงานกำลังพล อาทิ

• พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร (ภ.8)

• พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช (กองปราบ) ดาวรุ่ง ตท.34

• พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ (สง.ก.ตร.)

• พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ (ส.)

• พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ (ภ.2)

• พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ (สอท.)

• พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ (จเรตำรวจ)

                       

4 สมการ“ผบ.ตร.” 

วงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ไว้ 4 กรณี

1.ถ้า บิ๊กหวาน (ธัชชัย) ได้ขึ้นปี 2569 จะนั่งเพียง 1 ปี เปิดทางให้ “นิรันดร-สำราญ-อิทธิพล” ชิงกันปี 2570

2.ถ้า นิรันดร ได้ขึ้นปี 2569 →จะนั่ง 2 ปี จนถึง 2571 จากนั้นเปิดทาง “บิ๊กราญ-บิ๊กแมน”

3.ถ้า บิ๊กแมน (อิทธิพล) ได้ขึ้นปี 2569 ครองเก้าอี้ยาว 3 ปี (ถึง 2572) จากนั้นส่งไม้ต่อให้ “สำราญ” 3 ปี และเปิดทาง “บิ๊กก้อง–จิรภพ” ปี 2579

4.ถ้า บิ๊กราญ (สำราญ) ได้ขึ้นปี 2569  จะนั่งยาว 6-7 ปี (ถึง 2576) ดับฝันแคนดิเดตอื่น ก่อนเปิดทางให้ “บิ๊กก้อง-จิรภพ” ตท.34 รุ่นเดียวกันรับช่วงต่อ

นี่คือ สมการการเมือง-ตำรวจ ที่รัฐบาลปัจจุบันต้องคิดหนัก เพราะใครได้ขึ้น รอง ผบ.ตร. ปีนี้ และอยู่ในไลน์ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 16 ย่อมกำหนดตัวเล่นหลักในอีก 10 ปีข้างหน้า 

                      

ศึกชิงผบช.สู้กันมันหยด

ตำแหน่ง ผบช. 18 เก้าอี้ กลายเป็นศึกดุเดือด เช่น

พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. (1/01/2514) อดีต ผบก.ปคบ >> ผบช.ก.  

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร (11/04/2510) ผบช.ภ.1 นรต.รุ่น 41 รุ่น ผบ.ตร.   >> ผบช.สอท. 

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง (7/10/2513) ผบช.สกพ.  >> ผบช.ปส.

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 >> ผบช.ภ.1

พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผบช.ภ.4  >> ผบช.ภ.2

พล.ต.ท.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ จตร.(สบ.8) >> ผบช.ภ.3

พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย (22/09/2515) ผบช.ปส. >>  ผบช.ภ.4

พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.สกบ.>>> ผบช.ภ.7

พล.ต.ท.นิติธร จินตกานนท์ ผบช.ศ. นรต.47 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.สุรเชชฐ์ หักพาล ผบช.ภ.7 >> ผบช.ตชด.

พล.ต.ท.สิทธิชัย โล่กันภัย ผบช.สยศ.ตร. >> ผบช.ภ.8

                           

พล.ต.ต.ยสวินท์ หรรษมนตร์ รองผบช.ส. >> ผบช.ส.   

พล.ต.ต.ศักดิ์รพี เพรียวพานิชย์ รอง ผบช.นรต. >> ผบช.รร.นรต. 

พล.ต.ต.ภาณุพงศ์ ชอบเพื่อน รอง ผบช.สกบ. >> ผบช.สกบ. 

พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผบช.ก. >> ผบช.สทส. 

พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก. >> ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. 

พล.ต.ต.อุกฤษฏ์ ศรีเสือขาม รองผบช.กมค.>> ผบช.กมค. 

พล.ต.ต.ชัยต์พจน์ สุวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 >> ผบช.สกพ. 

พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สง.กตร. >>  ผบช.สง.ก.ตร.

*พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ลุ้น 50:50 

                   

“6 ผบช.สายแข็ง”คุมที่เดิม

มีนายพลตำรวจ 6 คน ที่มั่นคงในเก้าอี้เดิม ได้แก่ 

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.

พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5

พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9

พล.ต.ท.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.

                   

เกมการเมือง-ตำรวจ 

เบื้องหลังการแต่งตั้งนายตำรวจไม่ได้ขึ้นกับ อาวุโส-ความสามารถ เพียงอย่างเดียว แต่ยังเชื่อมโยงกับ “สมดุลทางการเมือง” ที่รัฐบาลต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษ ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาต่อสถาบันตำรวจ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน อาจจะเกิดการเลือกตั้งใหม่เร็วกว่ากำหนด

การวางตัว “ผบ.ตร.คนใหม่” จึงไม่ใช่เพียงการเลือก “หัวหน้าตำรวจ” แต่คือการเลือก “ผู้ควบคุมเกมอำนาจ” ในช่วงเปลี่ยนผ่านการเมืองไทย 

การแต่งตั้ง-โยกย้ายครั้งนี้จึงถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะใครได้เป็น ผบ.ตร.คนที่ 16 ย่อมสะท้อนว่า ขั้วอำนาจการเมืองใด ครองอำนาจในยุทธจักรสีกากี จะกำหนดอนาคตสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปอีกทศวรรษ

รายงานพิเศษ โดย...ทีมข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4124