วันนี้ (13 ส.ค. 68) ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งมา ตามคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่
คำร้องระบุว่า ผู้ถูกร้องทั้งสองมีมติให้ความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 23 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งถูกมองว่าเป็นการแทรกแซง หรือ ครอบงำอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเครื่องมือกดดันกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการกลั่นแกล้ง ข่มขู่ และครอบงำฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ และฝ่าฝืนหลักนิติธรรม จึงเข้าข่ายขาดความซื่อสัตย์สุจริตอย่างร้ายแรงและฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประกอบการวินิจฉัย จำเป็นต้องเรียกพยานบุคคลและพยานเอกสาร
โดยให้พยานบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นเป็นหนังสือ ตามประเด็นที่ศาลกำหนด พร้อมแนบเอกสารประกอบและรับรองความถูกต้อง ส่งต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่ได้รับหนังสือ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาคดีต่อไป