ทีมทนาย“เนวิน”แถลงโต้ปมเขากระโดง เอกสารสิทธิคุ้มครองตาม ก.ม.

07 ส.ค. 2568 | 08:25 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2568 | 08:40 น.

ทีมทนาย “เนวิน” แถลงโต้มหาดไทยปมเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ยันถูกต้องตามกฎหมาย เตือน "ภูมิธรรม" ต้องรับผิดหากสั่งเพิกถอนโดยไม่มีอำนาจ

วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามฯ พร้อมด้วยนายตฤณ และ นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทีมทนายความผู้รับผิดชอบคดีข้อพิพาทที่ดินบริเวณเขากระโดง นำตัวแทนประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ แถลงข่าวโต้กรณีที่กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินในเขตเขากระโดง กว่า 5,083 ไร่ 995 ราย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ยันเอกสารสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย

นายตนัยศิริ กล่าวว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนในพื้นที่ พร้อมตั้งคำถามต่อกระบวนการเพิกถอนที่ดินว่า ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน และยังขัดต่อคำพิพากษาของศาลสูง

“เราไม่ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงมาก่อน วันนี้จึงมายืนยันว่า เรามีเอกสารสิทธิตามกฎหมาย เราเคารพกระบวนการยุติธรรม และคำพิพากษาศาลทุกชั้น ก็ได้ข้อยุติแล้ว”

ศาลฎีกาตัดสินเฉพาะคู่ความ

ด้านนายชนินทร์ กล่าวว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า ที่ดินในเขตข้อพิพาทเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็จริง แต่คำพิพากษานั้น มีผลผูกพันเฉพาะคู่ความเท่านั้น ไม่สามารถใช้ยันบุคคลภายนอกได้ เว้นแต่จะมีการฟ้องร้องใหม่

“ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 145 วรรคสอง คำพิพากษาศาลผูกพันเฉพาะคู่ความในคดีเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นเหตุเพิกถอนสิทธิของประชาชนทั่วไปที่มีเอกสารสิทธิในที่ดินอื่นได้”

นอกจากนี้ เขายังอ้างกฎหมายหลายฉบับ ทั้งประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 และ 3, ประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 37 ที่ให้ความคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน

อัด“ภูมิธรรม”แทรกแซง-เสี่ยงผิด ม.157

นายชนินทร์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย มีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าว รวมถึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบอธิบดีกรมที่ดิน เป็นการใช้อำนาจทางบริหารแทรกแซงกระบวนการราชการโดยไม่มีฐานกฎหมายรองรับ 
“หากมีการใช้อำนาจโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นการละเมิดจริยธรรมของรัฐมนตรีตามระเบียบราชการแผ่นดิน”

รฟท.อ้างสิทธิในที่ดินไม่ได้ 

ขณะที่ นายตฤณ แก่นหิรัญ ทนายความอีกคน ระบุว่า การที่การรถไฟอ้างว่า ที่ดินทั้งหมดเป็นของรัฐนั้น ต้องมีหลักฐานทางกฎหมายชัดเจน ได้แก่ พระราชกฤษฎีกา, แผนที่แนบท้าย และ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

“หากรฟท.ไม่มีเอกสารเหล่านี้ ก็ไม่สามารถอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ การกล่าวอ้างลอยๆ ว่าเป็นที่หลวงไม่สามารถลบล้างสิทธิของประชาชนที่มีเอกสารสิทธิตามกฎหมายได้”

ทั้งนี้ ทนายความ ระบุว่า หากภาครัฐยังเดินหน้าเพิกถอนโดยไม่มีฐานกฎหมายชัดเจน จะดำเนินการพิสูจน์ในชั้นศาล และเรียกร้องความเป็นธรรมให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว