เปิด 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวรอบ2 “อิ๊งค์”ชี้แจงปมคลิปฮุนเซน

30 ก.ค. 2568 | 06:43 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2568 | 07:04 น.

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5 เสียงอนุมัติขยายเวลาให้ "แพทองธาร ชินวัตร" ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครั้งที่ 2 ออกไปจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2568 หลังการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่สมบูรณ์ พร้อมยืนยันความยุติธรรมในการดำเนินการ.

กรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคําร้องขอขยายระยะเวลายื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถูกร้อง ฉบับลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ซึ่งขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 วัน นับถัดจากวันครบกําหนดเดิม

เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้เรียบเรียง ทําคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาซึ่งยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 มีคําสั่งอนุญาตให้ผู้ถูกร้อง ขยายระยะเวลายื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นครั้งสุดท้าย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 31

สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก  5 เสียงประกอบด้วย นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูฐอีก 4 คนคือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายนภดล เทพพิทักษ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ  รอยกุลเจริญ  

เปิด 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวรอบ2 “อิ๊งค์”ชี้แจงปมคลิปฮุนเซน

ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย 4 เสียงได้แก่ นายปัญญา อุดชาชน นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

กรณีผู้ถูกร้องไม่ยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในกําหนด ระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ถูกร้องไม่ติดใจที่จะยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญจะดําเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54 วรรคสาม

ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ประธานวุฒิสภาส่งคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 106 (4) และ (5) หรือไม่

กรณีที่สมาชิกวุฒิสภา รวม 36 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) ว่า ปรากฏคลิปเสียงการสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้อง) กับสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา เผยแพร่ทางสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568

ผู้ถูกร้องแถลงข่าวยอมรับว่า เป็นเสียงการสนทนาของตนกับสมเด็จฯฮุน เซน จริง แม้ผู้ถูกร้องจะแถลงข่าวในเวลาต่อมาว่าเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัว โดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวล เพื่อรักษาไว้ ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม แต่ผู้เข้าชื่อเสนอคําร้องเห็นว่า ผู้ถูกร้องแสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกําหนด มาตรการ

รวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ใน สภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทํา เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทําตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด

ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ถูกร้องเห็นว่า เป็นฝ่ายตรงกันข้าม ผู้ถูกร้องไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย