ศาล รธน.ปิดคดี "พิเชษฐ์" แปรงบลงพื้นที่ ขัด ม.144 นัดชี้ชะตา 1 ส.ค.
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำแถลงปิดคดี กรณี"พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภาฯ ถูกกล่าวหาแปรงบลงพื้นที่ตัวเอง เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ม.144 หรือไม่ นัดวินิจฉัย 1 ส.ค.นี้
KEY
POINTS
- นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในข้อกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสนอโครงการใช้งบประมาณที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144
- ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว เห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอ จึงมีคำสั่งยุติการไต่สวนและปิดคดีเพื่อเตรียมวินิจฉัย
- ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ก่อนจะอ่านคำวินิจฉัยชี้ชะตาสถานะของนายพิเชษฐ์ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น.
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาปรึกษาหารือในคดีที่ นายภัณฑิล น่วมเจิม และ ส.ส. รวม 121 คน (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยกรณี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง (ผู้ถูกร้อง) ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำและเสนอขอโครงการใช้งบประมาณที่อาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144
คำร้องระบุว่า นายพิเชษฐ์ ได้ให้ความเห็นชอบและมีส่วนโดยตรงหรือโดยอ้อมในการผลักดัน โครงการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 3 โครงการ ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 และต่อมา สำนักงานเลขาธิการฯ ได้ขอเสนอโครงการลักษณะเดียวกันและต่อเนื่องอีกครั้งในงบประมาณปี 2569 ซึ่งเข้าข่ายเป็นการแปรญัตติหรือกระทำการใด ๆ ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืน รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง
ในกระบวนการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนพยานบุคคลรวม 9 ปาก และผู้ถูกร้องได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว โดยล่าสุดศาลมีคำสั่งรับคำแถลงปิดคดีของทั้งสองฝ่าย รวมไว้ในสำนวน พร้อมเห็นว่า คดีนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องไต่สวนเพิ่มเติม
ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง ศาลจึงมีคำสั่ง ยุติการไต่สวน และกำหนดวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. เพื่อแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติ โดยจะนัดอ่านคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
คดีนี้ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองและสังคม เนื่องจากอาจมีผลโดยตรงต่อคุณสมบัติและสถานะทางการเมืองของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในสภาผู้แทนราษฎร