สุธรรมชี้เสนอชื่อ รมต. ไม่ผ่านมติ ปชป. ส่อขัดกฎหมายพรรคการเมือง

11 ก.ค. 2568 | 11:03 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ค. 2568 | 11:15 น.

“สุธรรม ระหงษ์”แจงปมเสนอชื่อ รมต. ไม่ผ่านมติพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ส่อขัดกฎหมายพรรคการเมือง และจริยธรรมร้ายแรง หวั่นกระทบวงกว้าง

วันนี้ (11 ก.ค. 68) นาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อร้องเรียนที่มีผู้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)  กรณีเสนอชื่อ สส.ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยไม่ผ่านกระบวนการตามข้อบังคับพรรคว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องภายในพรรค ไม่ถึงขั้นต้องนำไปสู่การยุบพรรคตามที่มีการร้องเรียน 

แต่ยอมรับว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ดำเนินการตามข้อบังคับพรรคอย่างถูกต้อง ทั้งในส่วนของมติกรรมการบริหารพรรค และการรับรองจาก สส.พรรค ก่อนการเสนอชื่อไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อทูลเกล้าฯ


“ไม่มีมติ ไม่มีบันทึกประชุม ไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการ แต่กลับมีชื่อปรากฏในโผรัฐมนตรี หลังโปรดเกล้าฯ ไปแล้ว ซึ่งสะท้อนว่า กระบวนการของพรรคไม่ชอบด้วยข้อบังคับ”

นาวาตรีสุธรรม เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือแสดงความเห็นแย้งต่อหัวหน้าพรรคแล้ว แม้ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับใครในพรรค แต่ต้องยืนยันหลักการตามกฎหมายและข้อบังคับโดยเฉพาะ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดให้พรรคต้องดำเนินกิจการด้วยความโปร่งใสและชอบด้วยข้อบังคับ

นาวาตรีสุธรรมยังตั้งข้อสังเกตต่อกรณีที่กรรมการบริหารพรรค และ สส. ได้จัดประชุมร่วมหลังการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้ “สัตยาบันย้อนหลัง” ต่อมติที่ไม่เคยเกิดขึ้นว่า อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีบัญญัติไว้ในข้อบังคับพรรค และตนเป็นเพียงคนเดียวในที่ประชุม ที่ไม่เห็นชอบกับการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว

กรณีนี้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และข้อบังคับของพรรค เป็นกฎหมายในลักษณะของกฎหมายปกครอง ซึ่งควบคุมการใช้อำนาจของหน่วยงานรัฐและพรรคการเมือง อันอาจกระทบสิทธิของบุคคลจำนวนมาก และความสงบเรียบร้อยของสังคม 

ดังนั้น การดำเนินกิจการของพรรคและการใช้อำนาจของ กกต. ต้องเป็นไปโดยเคร่งครัดตามกฎหมายและข้อบังคับ มิฉะนั้นการกระทำนั้นย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่อาจให้สัตยาบันย้อนหลังได้ เพราะไม่ใช่นิติกรรมระหว่างเอกชน ที่จะสละสิทธิ หรือ ให้ความยินยอมภายใต้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้

กรณีนี้ หากเปรียบเทียบกับกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพ้นจากตำแหน่งจากการเสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ก็ถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะอาจกระทบถึงตัวนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการเสนอชื่อรัฐมนตรีที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายภายในพรรค อาจส่งผลกระทบในวงกว้าง

นอกจากนี้ นาวาตรีสุธรรม ยังแสดงความเป็นห่วงว่า กรณีนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานที่คลาดเคลื่อน หาก กกต. พิจารณาแล้วไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งที่มีข้อบ่งชี้ถึงการละเมิดข้อบังคับ ซึ่งอาจขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ

สุดท้าย นาวาตรีสุธรรม ย้ำว่า ขณะนี้ กกต.จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง พร้อมตรวจสอบเอกสารและบันทึกการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่า พรรคได้ดำเนินการตามข้อบังคับพรรคหรือไม่

ก่อนหน้านี้ นาวาตรีสุธรรม เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ผู้อำนวยการพรรค, รองหัวหน้าพรรค, และล่าสุด เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดังกล่าว และหลังจากเกิดความเห็นต่าง นาวาตรีสุธรรม ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีแล้ว